Monday, July 20, 2009

เรื่องของหัวใจ ตอนที่ ๑



Jack Johnson ส่งเสียงดังในห้องผม
ผมไม่ได้เปิดพลงฟังมานานพอดู
สมัยก่อนผมชอบฟังเพลง ฟังแล้วรู้สึกเย็นที่หัวใจ
ในบรรดาอวัยวะ ผมให้ความสำคัญกับ หัวใจ มากกว่าสิ่งอื่น
ระหว่าง คนฉลาด กับ คนกล้า ผมชอบคนกล้ามากกว่า
ระหว่าง ผู้หญิง กับ ผู้ชาย ผมชอบผู้หญิงมากกว่า
เพราะผู้หญิงใช้หัวใจมากกว่าหัวสมอง
สำหรับผม หัวใจ คือเมืองหลวง ส่วนหัวสมองเป็นเมืองท่าค้าขาย
แต่ในทุกวันนี้สังคมค้าขาย กลับให้ความสำคัญกับเมืองท่ามากกว่า
ในขณะคนเมืองหลวง กลายเป็นคนไร้เหตุผล ตามที่คนเมืองท่ายัดเยียด

แน่นอนที่สุดครับ คนเมืองหลวง ก็ต้องใช้สมอง
แต่สมองก็มีหน้าที่จำกัด และควรจะมีหน้าที่จำกัด

ใครจะว่าผมโง่ก็ว่าเถอะครับ
ผมยอมรับว่าผมใช้หัวใจมากกว่าหัวสมอง
เพราะหัวสมอง มักจะโง่ที่สุดในเรื่องความสุข เช่นกัน

ผมยอมบวกเลขผิด แล้วมีความสุข
ถ้าผมจะขาดทุน แล้วผมรู้สึกตัวเบาขึ้น
ผมก็ยอม

.............

นั่งอยู่เมืองนอก เงียบสงบดี
แต่พอผมก้มมองหัวใจตัวเอง ยังพบว่า
แม้ว่าผมจะมาอยู่ในที่สงบ
แต่หัวใจของผมยังคงเหนื่อยอ่อนพิกล

...........

จำได้ว่าสักสี่ห้าปีก่อน ผมค่อนข้างมีความสุข
ไปทำงาน สอนหนังสือ อยู่กับนักศึกษา
บางครั้งสอนหนังสือเสร็จตอนเช้า ตอนบ่ายก็กลับบ้านมานอนหลับ

ตกเย็นบางทีก็นั่งรถเข้าเมือง มาแถวธรรมศาสตร์
มาตรอกข้าวสาร แน่นอนที่สุดผมชอบไปบริกบาร์
หาเพื่อนที่ถูกใจคุยกัน กินเหล้าดีๆ ฟังเพลงเร็กเก้ ที่ผมชอบ
สนุกครึกครื้นไปวันๆ ไม่คาดหวังอะไร ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ในแต่ละวัน ส่วนความรัก ขอพักไว้ก่อน เพราะยังไม่เจอใครที่ถูกใจจริงๆ

................

มีอยู่วัน ผมไปสอนหนังสือตามปกติ
ซึ่งวันเสาร์ โดยปกติผมจะไปสอนที่ อุบลราชธานี
ในวิชากฎหมายปกครองท้องถิ่น

พอไปถึงนักศึกษามาเชิญให้เป็นวิทยากรในการสัมมนาครั้งหนึ่ง

ผมก็พูดไปตามที่ผมรู้

.............

จนในที่สุด ผมก็พบตัวเองอีกครั้งบนเวทีการปราศรัยกลางสนามหลวง

ตั้งแต่นั้นมา การเดินทางของผมก็เริ่มขึ้น

โดยผมไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าผมจะเดินทางไปไหน

รู้แต่ว่า มีสิ่งหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าผม แล้วผมเดินตาม

สิ่งนั้น คือ หัวใจ ผมเอง

.........

โปรดติดตามตอนต่อไป

เมฆบ้า

Friday, July 17, 2009

zen ในมุมมองหนึ่ง


ในบรรณภิภพอันไพศาลทั้งไทยและเทศ ในบรรดาหนังสือ หมวดปรัชญา ศาสนา เซน คือ เมกกะ ที่ผู้จะนับตนว่ามีรสนิยมในการเสพอักษรต้องเหยียบย่างจาริก โดยการยืนอ่านกระทั่งการจับจองเป็นเจ้าของกันคนละเล่มสองเล่ม

เซน มี เสน่ห์ สำหรับ ปัญญาชน เสน่ห์ของ เซน คือ ความลึกลับ คลุมเครือ ยิ่งลึกลับ คลุมเครือ เข้าใจได้ยาก เหล่านี้ คือ รสอักษร
ที่ปัญญาชนดูชอบละเลียดเล็มเป็นยิ่งนัก

ใครจะนับตนว่า "ฮิป " " ชิล " "เทพ" และ ไม่เกรียน นอกจากการแต่งกายสะพายย่ามหรือเป้แล้ว ยามเข้าร้านกาแฟสตาร์บัก เมื่อวาง คาปู ลงบนโต๊ะ และหย่อนก้นลงบนโซฟานุ่ม ถ้าหยิบ เซน ขึ้นมาอ่านสักเล่ม ก็คงดูดีมิใช่น้อย ขั้นเทพ ขั้นเทพ

และใครบังเอิญเส้นทางชีวิตต้องไปเรียน สาขาปรัชญา ถ้ามีคนถามเขาถึงเซน ก็ต้องวางมาดวางภูมิเล็กน้อย พร้อมต่อด้วยคำอธิบายเชิงปลากรายประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น นิห่ง และถ้าจะดี ต้องตบท้ายด้วย นิทานเซน เช่น ชาล้นถ้วย ก็คงดูน่าเชื่อถือดี

ผมรายงานสิ่งที่เห็นเกี่ยวกับ เซน ให้ทราบ ไม่ได้ประชด แม้ว่าภาษาจะดูประชัน

............


ย้อนกลับไป ราวคราวที่ สิทธทัตถะ ยังนั่งอยู่โคนต้นโพธิ์ ในคืนนั้น ก่อนที่ท่านจะกลายเป็นพระพุทธเจ้าในกาลต่อมา และก่อนที่พระองค์จะประกาศศาสนา ก่อนที่จะมีพระไตรปิฎก ก่อนที่จะมีวัดวาอาราม หรือ โบถส์ราคาสองพันล้าน หรือ เจดีย์บ้าบุญที่รูปร่างเหมือนยาน UFO ก่อนที่ภาษาจะถูกถ่ายทอด

คือขณะที่ สิทธิทัตถะ นั่งอยู่ ผมหมายถึง สิทธิทัตถะ คนเดียวกับที่พวกเราๆเรียนในวิชาพุทธศาสนาตอนเด็กๆ คนเดียวกับที่ Herman Hesse เขียนถึง คนเดียวกันกับที่พวกฝรั่งชอบเอาไปตั้งไว้ตามตู้โชว์รองเท้า ชุดชั้นใน กระทั่งร้านตัดผม คนเดียวกับที่พวกทอลีบัน ระเบิดเล่น คนเดียวกัน

ขณะก่อนที่คำพูด คำจารึก ถึง พระองค์จะปรากฏ
ขณะที่พระองค์นั่งสงบนิ่ง อยู่โคนต้นโพธิ์ ริมน้ำ
ขณะที่พระองค์ทรงเหนื่อยอ่อนจากความพยายามในทุกวิธี
ขณะที่พระองค์กำลังจนพระปัญญา
ขณะที่ความทุกข์ย่ำยีหัวใจพระองค์จนไม่มีชิ้นดี

ขณะที่พระองค์ไม่รู้เรื่องที่คิด แต่รู้ว่ามันเป็นแค่ความคิด
ขณะที่พระองค์ไม่เห็นร่งของพระองค์ แต่เห็นเพียงร่างกาย วัตถุธาตุ
ขณะที่พระองค์ไม่เห็นภาพ แต่รู้ว่ามันเป็นแค่แสง
ขณะที่พระองค์ไม่รู้สึกทุกข์ แต่เห็นทุกข์สุขเท่าเทียม
ขณะที่พระองค์ไม่เห็นการย่ำยี แต่รู้ว่ามันคือกระแส

ขณะที่พระองค์ รู้สึก ถึงสิ่งต่างๆที่เคลื่อนไหวอยู่ในพระองค์
ในขณะที่พระองค์นั่งอยู่ที่ตรงนั้น ใต้ต้นโพธิ์ธรรมดา
ริมแม่น้ำธรรมดา

............

เซน มุ่งกล่าวถึง ขณะนั้น

ขณะนั้น ในคืนนั้น ก่อนที่ท่านจะกลายเป็นพระพุทธเจ้าในกาลต่อมา และก่อนที่พระองค์จะประกาศศาสนา ก่อนที่จะมีพระไตรปิฎก ก่อนที่จะมีวัดวาอาราม หรือ โบถส์ราคาสองพันล้าน หรือ เจดีย์บ้าบุญที่รูปร่างเหมือนยาน UFO ก่อนที่ภาษาจะถูกถ่ายทอด

และ เซน ก็คือ หนทางที่จะเข้าสู่ขณะนั้น

ขณะที่แสนธรรมดา แต่ยิ่งใหญ่ที่สุด

เท่าที่ มนุษย์จะเข้าถึง