Monday, October 19, 2009

ตันตระ


ธรรมชาติเสกสรรค์พลังงานอยู่ในกายใจเราหลากหลาย
พลังงานที่ผ่านสมองออกมาทางการคิดการเขียน ถูกเรียกว่า พลังปัญญา
พลังงานที่ผ่านมาทางความโกรธ ความชอบ ความหลง เรียกว่า พลังทางอารมณ์

เมื่อเราแลมองสรรพสิ่ง การเบ่งบานของดอกไม้ การเติบโตของเหล่าสัตว์ การเคลื่อนที่ไปของสรรพชีวิต
การก่อกำเนิดขึ้นของลูกหลาน เราจะพบว่า มีพลังงานที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลัง คือ พลังงานทงเพศ

พลังงานเป็นของกลาง ไม่ว่าจะผ่านมาทางใด และถูกตั้งชื่อว่าอะไรมันก็คือพลังงาน

ขณะที่เราคิด หากเรารู้ว่ามันคือพลังงานชนิดหนึ่ง เราจะเป็นอิสระจากมัน
หากเราตื่นขึ้นจากความคิดได้ เราจะพบภาวะที่อยู่เหนือความคิด
ขณะที่เราชอบ โกรธ หลง หากเราตระหนักถึงพลังแห่งอารมณ์ เราจะเป็นอิสระจากมัน
หากเราตื่นขึ้น เราจะเป็นอิสระจากอารมณ์เหล่านั้นและโบยบินไปสู่ความว่างเปล่าที่สมบูรณ์
แล้วเหตุไฉนขณะที่เรามีเพศสัมพันธ์ เราจะตื่นรู้ไม่ได้ เพราะในขณะที่พลังงานไหลเวียนหากเราตื่นรู้
เราจะพบท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล

ชายหญิง หากไร้ชื่อเรียก มันคือ ภาวะการรวมตัวกันของพลังงาน
แต่ชาย และหญิง เราถูกตัดแบ่งออกจากความเป็นหนึ่งเดียว
ต้นไม้ไม่ถูกตัดแบ่งมันจึงสมบูรณ์และอายุยืน
การตัดแบ่งออกโดยธรรมชาติมันทำให้เราสัมผัสรับรู้แต่เพียงด้านเดียว
เราไม่อาจเข้าถึงพลังของอีกฝ่าย
จนถึงขั้นที่ไม่อาจหลอมรวมกันได้

เพศสัมพันธ์ที่ขาดการตระหนักถึงธรรมชาติอันไพศาล
และความเกี่ยวพันของพลังงานสองด้าน
มันจึงมีคุณค่าเทียบเท่าเพียงการพบปะกันของก้อนเนื้อ
และอารมณ์ความรู้สึกหยาบๆของพลังงานทางเพศ
โดยที่จิตวิญญาณสองด้านไม่อาจหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

เพศสัมพันธ์ของมนุษย์โดยทั่วไปจึงเป็นการพบปะอันผิวเผิน
ที่ต่างฝ่ายต่างใช้เพื่อสนองตอบความต้องการทางกายเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ธรรมชาติอันลึกล้ำจึงไม่อาจหลอมรวมเข้าเป็นหนึ่ง

แล้วอะไร คือ เครื่องขวางกั้น
แน่นอนไม่มีอะไรกั้นกายของคู่รักให้มามีเพศสัมพันธ์ได้
แต่สิ่งที่เข้ามากางกั้นส่วนใหญ่สิงสถิตย์อยู่ในความรู้สึกของเราเอง

ความรู้สึกที่ถูกวางเงื่อนไขจากสังคม หรือจากองค์กรศาสนา
ก็ในเมื่อหากเรายึดติดกับความคิดใดหรือแบบปฏิบัติใดที่ชอบกล่าวหาว่า
เพศสัมพันธ์เป็น บาป แล้ว การยึดติดนั้น คือ สิ่งที่ควรปล่อยวางมิใช่หรือ

ด้วยเหตุนี้ ณ ขณะที่เพศสัมพันธ์เกิดขึ้น หากจิตใจมีกรอบขอบเขตบางเบา
โอกาสที่พลังงานบริสุทธิ์ของทั้งสองฝ่ายจะได้หลอมรวมย่อมเกิดขึ้น
สิ่งเหล่านี้ยากนักที่จะได้สัมผัส หากเราไม่ได้ตื่นรู้จากกรอบที่ขังหัวใจเราไว้

ณ ขณะที่เรามีเพศสัมพันธ์
เรายอมรับด้วยหัวใจที่เปิดกว้างถึงพลังอีกด้าน
การหลอมรวมย้อมเกิดขึ้น
ณ ขณะนั้นเราจะได้สัมผัสถึงพลังงานที่เป็นหนึ่ง
และเมื่อเราเข้าใจ และตื่นรู้ ด้วยสมาธิ
พลังงานจะถูกแปรรูปไปสู่สภาวะสูงสุด
หรือ นิพพาน

นั่น คือ ตันตระ

ตันตระ คือ หนทางแห่งการนำมนุษย์ไปสัมผัสกับ ความเป็นหนึ่งของธรรมชาติ

เพศสัมพันธ์ แท้จริง มิใช่ ความสัมพันธ์ของชายหญิง แต่เป็นความสัมพันธ์ของ ชาย กับธรรมชาติ ผ่านผู้หญิง
และเป็นความสัมพันธ์ของผู้หญิงกับธรรมชาติ ผ่านผู้ชาย

ชายหญิงในตันตระ จึงเป็นเพื่อนกันทางจิตวิญญาณที่หลอมรวมพลังทั้งหมด

เพื่อเดินผ่านไปสู่ อนันตภาวะ ความรัก ความอิ่มเต็มทางจิตวิญญาณอย่างที่สุด

...........

ฉันผู้โง่เขลา โหยหิว และอ่อนแรง
เธอผู้เจ็บปวดและอ่อนล้า

เรา คือ ผู้จาริกแสวงบุญเพื่อพบอนันตภาวะ

เราจะหลอมรวมเข้าด้วยกัน

เพื่อเรียนรู้ภาวะแห่งความเป็นหนึ่ง

เพื่อตื่นรู้สู่นิรันดรภาพ