Thursday, September 27, 2007
The Last Tenor
The Last Tenor ลูซิโน่ ปาวารอตติ
เสียชีวิตมาหลายวันแล้ว
ปาวารอตติ เป็นนักร้องเสียงผ่าจักรวาลที่ข้าพเจ้าชื่นชอบ
มีอีกท่านที่ข้าพเจ้าชื่นชอบ คือ บ็อกเซลลี่ ศิลปิน Tenor ตาบอด
ข้าพเจ้า ขอไว้อาลัยแด่ศิลปิน
ผู้ทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขเวลาเปิดแผ่นฟังในห้องแคบๆ
บางทีการฟัง Tenor ก็ทำให้ห้องแคบๆ กลายเป็นโรงมหรสพขนาดใหญ่ได้
ปาวารอตติ ทำได้ คุณลองไปซื้อแผ่นของเขามาฟังดู
แล้วจะรู้ว่า บางที แค่เสียงของใครคนหนึ่ง
ก็ทำให้คุณรู้สึกถึงความเมลื่องมลังอย่างไม่น่าเชื่อ
.............
ขอให้ ปาวารอตติ เดินทางสู่ บาร์โด ที่งดงาม
พร่างพราวด้วยดอกไม้ วงออเครสต้าอลังการ ในสวนสวรรค์
ข้าพเจ้าจะแอบฟังเสียงของท่านขับขานให้เกริกไปในจักรวาล
Monday, September 24, 2007
ชัมบาล่า ธิเบต และหัวใจแห่ง วาโป พาโร
ข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกคนมีวิถีเป็นของตนเอง
บางครั้งวิถีของท่านอาจเกิดจากแรงเหนี่ยวนำทางสังคม
หรืออาจเกิดจากแรงเร่งเร้าอันลึกล้ำที่ซ่อนตัวอยู่ในดวงจิตของท่านเอง
ทั้งหมดเป็นความสัมพันธ์ของพลังงานแห่งเอกภพที่ควบคุมการดำรงอยู่ของ
สรรพสิ่ง ไม่เว้นกระทั่งหัวใจอ่อนๆของเรา
วิถีมีมากมาย หลากหลายประตูให้เราได้เดินผ่าน
เดินผ่านไปสู่บางสิ่งบางอย่าง ด้วยแรงขับดันอันสลับซับซ้อน
มันขึ้นอยู่กับว่า ท่านมีความกล้าหาญในการเดินตามวิถีเพียงใด
ในบรรดาวิถีที่ข้าพเจ้าชื่นชม อันมีวิถีแห่งปัญญา วิถีแห่งนักรัก
วิถีแห่งศิลปิน เป็นอาทิ
มีวิถีที่เกี่ยวพันกับสันดานของข้าพเจ้าอย่างที่สุด คือ วิถีแห่งนักรบ
วิถีแห่งนักรบ ย่อมหลีกไม่พ้นการเข้าโรมรันพันตูกับข้าศึก
และแน่นอนที่สุด สิ่งที่นักรบพึงปรารถนา คงหนี่ไม่พ้นชัยชนะ
และชัยชนะจะได้มาเห็นจะไม่ใชของง่าย ถ้าไม่มี กโลบาย หรือ กลยุทธ์
และเหนือสิ่งอื่นใด คือ หัวใจกล้าหาญ อันนี้ขาดไปไม่ได้
แน่นอนที่สุด ที่การรบ ก็ คือ การประกอบกรรมชนิดหนึ่ง
และ กรรม ก็มีทั้ง ฝ่าย บุญ ฝ่ายบาป
เมื่อถึงเวลาสิ่งที่นักรบ จะต้องรับ นอกจากชัยชนะ
ก็คือ หายนะภัยที่มีที่มาจาก กรรมของนักรบ ในสงครามอันไม่มีวันจบสิ้น
................
ในบรรดาวิถีแห่งนักรบ เราอาจพบวิถีทางย่อยๆมากมาย
วิถีแห่งซามูไร แบบ มิยาโมโตะ มุซาชิ
ที่ต่อมาผันตนจากนักดาบเป็นนักพรต กวี และศิลปิน
วิถีแห่งนักรบพาญาอินทรีอินเดียนแดง
ที่ผันตนจากนักรบถลกหนังศรีษะไปเป็นชนเผ่าที่รักสันติ
วิถีแห่งข่าน มองโกล
ที่ผันตนจากราชันนักรบ ไปเป็นวิถีมองโกลที่สงบสันติ
วิถีแห่ง ฮันนิบาลแห่งคาเธจ
ที่ผันตนจากขุนพลแอฟริกาเหนือผู้พิชิตโรมัน ไปเป็นวิถีเมดิเตอร์เร่เนียนแสนโรแมนติก
..................
ในบรรดาวิถีนักรบ ข้าพเจ้าอยากแนะนำให้ท่านรู้จักกับวิถีนักรบที่ยิ่งใหญ่
เป็นความยิ่งใหญ่ที่อยู่เหนือสงครามทั้งปวง
ข้าพเจ้าขอนำท่านออกเดินทางสู่ภูสูงเสียดฟ้า ไปบนหลังคาโลก
ไปสู่ธิเบต อาณาจักรชัมบาล่า ที่ที่ท่านจะได้พบกับ ปาโว พาโล
นักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมหาจักรวาล
ธิเบต ดินแดนที่เป็นดุจภาพฝัน
เป็นเป้าหมายแห่งการท่องเที่ยวเดินทางของใครหลายคน
ครั้งอดีต ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นผืนผิวของมหาสมุทรมาก่อน
เนื่องจากมีการขุดพลซากสัตว์ทะเล
และยังมีการขุดพบซากไดโนเสาร์ อีกด้วย
ธิเบต คือที่ตั้งของเทือกเขาเสียดฟ้า หิมาลัย อันมียอดเขาสูงสุดเสียดฟ้า
คือ โชโมลังมะ หรือ เอเวอร์เลสที่ชาวเนปาลเรียกว่า ศกรมาธา
หิมะที่ละลายจากเทือกเขาได้ก่อเป็นมหานทีที่สำคัญมากมาย
ทั้ง ยาลุง ซังโป (พรหมบุตร) จิงเจียง (แยงซีเกียง) นูเจียง (สาละวิน)
ชาวธิเบต แบ่งได้เป็นห้าเผ่า คือ เมนปะ โลปะ เดนปะ และเชอปะและเผ่านาคิส
โดยแบ่งการปกครองออกเป็นสองแคว้น มีเมืองสำคัญ คือ ลาซา
ที่มี ดาไลลามะเป็นประมุขและเมืองซิกัตเซ่ ที่มีปันเชนลามะเป็นประมุข
ชาวธิเบตได้ชื่อว่า เป็นผู้รักสันติเหนือ สิ่งอื่นใด
ด้วยเหตุนี้จึงถูกรุกราน และตกอยู่ภายใต้การครอบครองของทั้ง มองโกล
และจีน แม้ในปัจจุบัน องค์ดาไล ลามะ เทนซิน คยัตโซ ที่กำลังถูกประท้วง
โดยทางการจีน จากการไปเยือนเยอรมนี ก็ยังต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ ธรรมศาลาในอินเดีย
หากเราใช้วิถีนักรบโดยทั่วไปว่ามาพิจารณา
เราอาจกล่าวว่า ชาวธิเบตเป็นคนขี้ขลาดตาขาว
กระทั่งประมุขของตนยังต้องลี้ภัยมามาอยู่ที่ประเทศอื่น
ทำไม ไม่จับดาบขึ้นประท้วงต่อสู้
แบบที่กำลังจะเกิดขึ้นกับกระบวนการสงฆ์ในพม่า
ที่กำลังประท้วงรัฐบาลทหารอยู่ในขณะนี้
แต่สาเหตุหลักมาจากความยิ่งใหญ่ในเชิงจิตวิญญาณของนักรบแห่งธิเบต
นักรบ ในภาษาธิเบต เรียกว่า ปาโว
ปาโว มีความหมายลึกลงไป หมายถึง ผู้มีชัยเหนือการท้าทายทั้งปวง
ความเป็นนักรบของธิเบต จึงหมายถึง การมีชัยเหนืออารมณ์ ความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นเร้า
จากการท้าทายของผู้อื่น
ในขณะเดียวกัน นักรบ ย่อมกระหายในสงคราม
แล้วอะไร คือ สงครามของนักรบแห่งธิเบต
นักรบแห่งธิเบตไม่เคยออกรบกับสงครามภายนอก
แต่เขากลับใช้ความกล้าหาญที่เหนือกว่าเข้าต่อตีกับข้าศึกภายใน
เมื่อได้ชัยชนะชาวธิเบตจะเรียกชัยชนะนั้นว่า พาโล
พาโล จึงความหมายถึง ชัยชนะเหนือสงครามทั้งปวง
สงครามทั้งปวงจึงเป็นเพียงของเล่นสำหรับ ปาโว
ปาโว พาโล จึงหมายถึง นักรบที่มีชัยเหนือสงครามทั้งปวงนั่นเอง
อาณาจักรที่เหล่า ปาโว พาโล ปกครองอยู่จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีอาณาบริเวณ
มีรัฐธรรมนูญ มีประชากร หรืออธิปไตยแต่อย่างใด
อาณาจักรที่ว่า เป็น อริยะนคร ที่ปกครองโดยประชาชนทุกคนเป็นราชันย์และราชินี
อาณาจักรอริยะ อาณาจักรชัมบาล่า ที่ทุกคนใฝ่ฝัน
ปาโว พาโล แห่งชัมบาล่ามีวิถีแห่งการฝึกฝนตนเองที่หนักหน่วง
โดยได้รับอิทธิพลโดยตรงจากพุทธศาสนาสายมหายาน
ที่ในธิเบตมีอยู่มากมายหลายนิกาย
ทั้งนิกาย นะยิงมา การ์จู ศากยะ และเกลุก
วิถีแห่งชัมบาล่า มีหลักการสำคัญทั้งหลักในทางปัญญา และความกรุณา
ซึ่งหลอมรวมวิธีการต่างๆในการฝึกตนเองไว้อย่างแยกกันไม่ออก
ปัญญาจะช่วยส่งเสริมกรุณา และกรุณาจะช่วยส่งเสริมปัญญา
และเมื่อ ผู้ใดผ่านวิถีแบบชัมบาล่า
เขาผู้นั้นจะได้เป็นสุดยอดแห่งนักรบแห่งมหาบูรพสูรย์
อันมีพระอาทิตย์สีเหลืองเป็นสัญญลักษณ์
วาโป พาโล นักรบมหาบูรพสูรย์ แห่งมหาอาณาจักรชัมบาล่า
นักรบผู้กุมสภาพสงครามอันยิ่งใหญ่ภายในจิตใจตน
...........
ในตอนหน้าผมจะมาเล่าต่อถึง
วิถีแห่ง วาโป พาโล
หัวใจของธิเบต ที่มิได้รอให้คุณเดินทางไปแต่เพียงสนองความต้องการ
ทางสุนทรียภาพในโลกยุคที่บัตรเครดิต สายการบิน คนนำเที่ยว
และโรงแรม ทำงานสอดประสานกันเป็นอย่างดี
Thursday, September 13, 2007
สากลศาสนคีตา
กฤษณะ กฤษณะ องค์เทพแห่งสรวงสวรรค์
รบเถิด อรชุน รบเถิด อรชุน
ในท่วงทำนองขององค์ภควัน อันรจนามาช้านานในภควัทคีตา
ข้าพเจ้าได้อ่านถ้อยคำจากสรวงสวรรค์อีกครั้ง ในสำนวนแปลของ สมพร พรมทา
ในหลักปรัชญาสางขยะ และโยคกรรม
ซึ่งสอนสั่งไว้ให้การหลุดพ้นจากทวิลักษณ์หรือประกฤติ ต้องกอรปด้วยการปฏิบัติตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
การหลุดพ้นจากทวิลักษณ์ คือ สางขยะ
การปฏิบัติตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น คือ โยคกรรม
ในโยคกรรม ท่านอาจทำทั้งบาปและบุญ ทั้งดีและชั่ว
แต่ โยคะแห่งการชำระล้างจิตใจจะนำท่านให้รอดพ้นจากทะเลทุกข์
ข้าพเจ้าร่อนโล้สำเภากลางเกลียวคลื่นอย่างเดียวดาย
ดุจผู้หิวโหย แห้งหาน้ำจืดประทัง
ข้าพเจ้าเคยเฝ้ารอนางอัปสรช่วยโปรดโปรยปรายสายพิรุณแต่ก็หามีไม่
ในโลกนี้ คงมิมีนางอัปสรที่เข้าใจความแห้งโหย ดุจเดียวกับความแห้งโหยของอรชุนในยามสงคราม
ความแห้งโหยที่เกรอะกรังด้วยรอยเลือดแห่งจิตใจ
เสียงอสุนิบาตข่มขวัญข้าศึก
รถรบ ทิวธง ทหารทรงม้า และสนั่นเสียงปืนใหญ่
คงระคายกลีบกลิ่นเกสรของเหล่านางฟ้านางสวรรค์กระมัง
ข้าพเจ้าเคยอ่อนล้า ด้วยไฟและการเหยียบย่ำนานา
ไฟและการเหยียบย่ำดุจดั่งมารดาและคุรุผู้ทำคลอดดวงจิต
เมื่อองค์กฤษณะปรากฏกายต่อหน้าอรชุนแล้ว
เหล่าทัพเการพคงต้องราญแหลก ด้วยอรรถกา สางขยะและโยคกรรม
และด้วยความรักที่ยังสถิตย์อยู่ในดวงใจข้าอย่างสม่ำเสมอ
องค์ปรากฏแห่งเยซู ผู้มีดวงใจแห่งความรักระคนเลือดของรอยหนามที่บดคมลงบนพระจิต
แล้วความเจ็บปวดของข้าพเจ้าก็กลายเป็นเพียงฝุ่นธุลีด้วยหัวใจแห่งความรักของพระองค์
อาตมันในตัวข้าร่ำร้องอยู่มิขาด
ในหลายวันข้าพเจ้าจึงหยิบฉวบศาสตราแห่งพุทธะ เข้าโรมรันตัดฟันทำลายมายาให้สิ้นทราก
วิปัสสนา โยคกรรม ดุจน้ำชำระล้างบาปเคราะห์ให้หลุดร่อน
วิราคะ นิพพิทา ก็สลัดปัจจัยปรุง สังขาราทั้งปวงให้ปริออก
ปารามิตา สางขยะ มัธยมมิกะ วิมลเกียรติ โลหิตสูตร มรณศาสตร์ คือ แผนที่เจาะไชทำลายมายา
ทำลายมายาเพื่อคืนคาย อาตมัน หรือ จิตเดิมแท้ ให้ผลิโผล่ขึ้นมาเหนือสนามพลังควอนตัม แมคคานิก
อิเลกตรอน โฟตรอน โปรตรอน นิวตรอนที่เคยแทรกสอด ซิงโครไนส์ จิตใจข้า เริ่มแผ่วเบา
ด้วยจิตอธิษฐานถึงเหล่าคุรุเทพเทวา และบรมโยคี
ข้าพเจ้ามิมีสิ่งใดจะยัญกรรมแก่ท่านนอกจากพลีซากกายและอาตมันนี้เพื่อความไพบูลย์
หากองค์กฤษณะบอกสาสน์แก่ ข้าพเจ้า ว่ารบเถิด ข้าพเจ้าจะหยิบดาบของเอกองค์นบีขึ้นราญรอนในยุคเข็ญ
หากท่าน มิลาเรปะ โยคนันทะ บาบาจิ มหาสยาและเหล่าโยคีจะอรรถกถาสางขยะ
ข้าพเจ้าจะน้อมรับด้วยอาตมันหรือดวงจิตเดิมแท้ของข้าพเจ้า
ดวงจิตที่สมานรอยร้าวแห่งมายาจนไร้รอยขูดขีด
เมื่อเป็นเช่นนี้ใครกันเล่า จะกล้ากล่าวอ้างถึง พหุทวารา นามศาสนา
ก็ในเมื่อ พรหม กฤษณะ ปรมาตมัน นิพพาน พระเจ้า กระทั่ง จิตจักรวาลที่ตัดขาดการซิงโครไนส์ คือ ส่งเดียวกัน
และเมื่อข้าพเจ้าได้ดื่มอมฤตธรรม และชูถ้วยแก้วศักดิ์สิทธิขึ้นเหนือศรีษะ
บทเพลงคีตาแห่งสากลศาสนา ก็บรรเลงเพลงรักขึ้นอีกคำรบ
.........
แด่บรมโยคีพุทธเจ้า เหล่าคุรุเทพ และนักวิทยาศาสตร์ควอนตัมแมคคานิก
Friday, September 07, 2007
หลาน
Saturday, September 01, 2007
ในสนาม
ในสนาม
ในสนามพลัง บางทีผมอาจเดินทางเวียนวนอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่ง
เหนื่อยมาก ในสนามพลัง แห่งนี้
เดินทาง จนผมห่างหายจากตัวตนเดิมๆ ไปไกลแสนไกล
เดินทางพลัดหาย จากเพื่อนร่วมทางหลากหน้า
ตัวตนที่ถูกกลืนกิน จากอ่อนหวาน สู่ก้าวร้าว
จากก้าวร้าว สู่เพลิงไฟ
จากเพลิงไฟ สู่ความร้อนรน
จากความร้อนรน สู่ความเกรียมไหม้
จากความเกรียมไหม้ สู่ความทรมาน
จากความทรมาน สู่ความไม่อาจควบคุม
จากความไม่อาจควบคุม สู่การยอมแพ้
จกาการยอมแพ้ สู่ความตาย
จากความตายสู่การพักผ่อน
จากการพักผ่อนสู่การพักฟื้น
ผมกำลังพักฟื้นตัวเองในสนามพลัง
พักฟื้นอยู่อย่างเดียวดาย แต่ผมเข้าใจมัน
เมื่อผมเดินได้ แม้ในส่วนลึกยังวาดหวัง
แต่ความวาดหวังก็เป็นส่วนนึงของสนามพลัง
ผมจึงวาดหวังว่าจะเดินออกจากสนามพลังแห่งนี้เสียที
ออกไปเป็นผู้ดู และรู้เห็น
ความดำรงคงอยู่ของมัน อย่างเสรี
ไม่ว่าใครใน จักรวาลแห่งนี้
จะเข้าใจในชะตากรรม และสิ่งที่ผมทำหรือไม่ก็ตาม
ผมรู้แต่ว่า ผมกำลังมีความสุข สันติ ขึ้นเรื่อยๆ
..........
ขอให้ทุกท่าน ในสนามพลังมีความสุข
Subscribe to:
Posts (Atom)