Sunday, March 30, 2008

พักแรม รอนทาง


ฉันไม่รู้ว่าใครสร้างฉันขึ้นมา
ใครกันที่ประทานโครงร่าง เส้นใย และจิตใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จิตใจ
จิตใจที่คอยขึงชักฉันไว้ ด้วยอารมณ์นานา

ฉันเชื่อว่าเธอก็คงเหมือนฉัน
เราอาจมีหน้าตา โครงเค้าที่แตกต่างกัน
เราอาจรากเหง้า ปูมหลัง และตัวตนที่แตกต่างกัน
แต่ใช่หรือไม่ที่เราล้วนเป็นทาสผู้ถูกเชิดชัก

ในการสังเกตและเฝ้ามอง
ชีวิตมักเคลื่อนคลี่ ไปสู่ความรวดร้าวเสมอ
ไม่ว่าจากจุดใดไปสู่ จุดใด
อย่างดีที่สุด ใครบางคน ฉันหวังว่าเป็นเธอ
อาจมีความสุขสมหวังได้ทั้งชีวิต
แล้ว ความตาย ก็บอกว่า จบมันลงซะ
นั่นก็เป็นความรวดร้าว มิใช่หรือ
เว้นไว้เธอจะจากไปแบบไม่รู้ตัว

ฉันผู้เปลี่ยนเส้นทางเดิน
จากภายนอกสู่ภายใน
ยิ่งค้นลึก ยิ่งลับลึก
ยิ่งเดินทาง ยิ่งพบเห็นความปวดร้าวภายใน
ในบางทีที่อ่อนแรง ชีวิตก็กลับมาเชิดชักให้เราเดินหลงทางสู่ภายนอก
และเมื่อความร้าวรานมาเยี่ยมเยือน ดุจดังฤดูร้อนมาแผดเผา
ก็อีกครั้งที่ผู้อ่อนหัดอย่างฉัน ต้องเรียกพลังที่มีอยู่น้อยนิด
มาต่อสู้กับแรงเร่งเร้าที่รัดรึงขึงกาย และจิตใจให้เขม็งเกร็ง

ฉันหวังว่า ฉันจะผ่านมันไปได้โดยเร็วกว่านี้

เพราะเบื้องหลังของชีวิต
ที่ไร้ซึ่ง มายาภาพ

มันสวยงามเหมาะแก่การ พิรี้พิไร อ้อยอิ่ง
ในอนันตกาล อันรุ่มรวย เยือกเย็น
มิใชหรือ

ฉันต้องเดินทางต่อไป
สู่ส่วนที่ลึกที่สุด
ที่ไม่มีอะไรเหลืออีกเลย

ขอให้เธอทุกคนโชคดี

Tuesday, March 25, 2008

I am that man


A: What happens?
When I,as an individual,feel icannot go along with the supreme command's decision? What if i won't conform?

B: We would try to convince you that individual dissent,perhaps valid before the decision is taken,cannot be tolerated after.All have to perticipate

A: You mean Obey ?

B: Yes !

A: And if i still couldn't or wouldn't agree.

B: We would have to show you the error of your ways

A: And how would you do that?

B:Persuade you that in practice the philosophy of the state and the law must be upheld at all times and at any cost

A:And if someone still maintains that some law or regulation is false. What then ?

B: We would probably incarcerate him so that he was no longer a disruptive influence.

A: I am that man

B: We would jail you and keep you there as long as was neccessary to change your mind.You would be treated as a political prisoner.

A: i am that man, I refuse to be silenced.I will talk to anyone who will listen. What do you do with me ?

B:Put you away

A:Liquidate me?

B:Probably.You would not be permitted to contaminate others.

A: Probably?

B: You would be eliminated

....................

บทสนทนาข้างต้นเกิดขึ้นที่ สวนอบเชย โคลัมโบ ศรีลังกา ในปี 1980
เป็นบทสนทนาระหว่าง ดร.Perera ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ ศรีลังกาในขณะนั้น
กับคุรุทางจติวิญญาณ กฤษณมูรติ
ในท้ายที่สุด แม้ว่า Perera จะยึดมั่นในลัทธิของตนแค่ไหน
และแม้ว่า กฤษณมูรติ จะเป็นเสรีชนเพียงใด
เมื่อจบบทสนทนา เขาทั้งคู่ก็สวมกอดกันด้วยความรักและเมตตากัน

เพราะในสัจจะและความรัก
ไม่อาจมีลัทธิใดมาแบ่งแยกหัวใจของเขาทั้งคู่ได้

อลัง อลัง