Monday, April 30, 2007

ในแรงตึงผิว




ผมนั่งดูนมร้อนๆ ในแก้ว เหนือน้ำนมมีคราบไขบางๆเกาะอยู่ เกาะอยู่บนผิวหน้าของนม

นักฟิสิกส์ เรียกแรงที่วิ่งอยู่ตามผิวหน้าที่ดึงดูดคคราบไขไว้บนน้ำนม ว่า แรงตึงผิว

กรณี น้ำนม ในแรงตึงผิว คือ คราบไข ที่อาจมีจุลินทรีย์ ตัวเล็ก ตัวน้อย อาศัยอยู่

สำหรับดวงดาว เมื่อเกิดการสร้างตัวเองขึ้น ดวงดาวก็จะสร้างบรรยากาศห่อหุ้ม

ซึ่งนั่นก็เป็นการปรากฏตัวของแรงตึงผิวของดาวดวงนั้น

โลกของเรา ขนาดมหึมา ก็มีผิวหน้า และมีแรงตึงผิว อันนำไปสู่การมีชั้นบรรยากาศกลมๆห่ออยู่

ชั้นบรรยากาศ และภูมิอากาศบนผิวโลก กับคราบไขบนน้ำนม จึงมีสิ่งที่เหมือนกัน

สิ่งที่เหมือน คือมันเป็นเพียงแผ่นฟิล์มบางๆที่ห่อวัตถุขนาดยักษ์อยู่

แผ่นฟิล์มบางๆในแรงตึงผิวอันยิ่งใหญ่ คือ ที่อาศัย ของ จุลินทรีย์

นั่นเป็นกรณีของคราบไขในน้ำนม

แล้วโลกียะวิสัยและเรื่องราวทั้งหมด บนผิวโลกนี้เล่าจะเอาสำมะหาอันใด

ในเมื่อทุกปรากฏการณ์ ไม่ต่างอะไรจากคราบไขในน้ำนม

ในแรงตึงผิว แม่น้ำ ชีวิต และความรัก ยังคงไหลเอื่อยอยู่ต่อไป

ตราบเท่าที่จุลินทรีย์ยังไม่แบ่งตัวและปล่อยของเสียมากจนเกินไปนัก

คราบไขของเรา คงหวานมัน มิใช่น้อย

......

เมฆบ้า

4 comments:

Anonymous said...

สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคะ อาจารย์ ถึงมาช้าแต่ก็ไม่เคยลืม

crazycloud said...

thank you very good !

I hpoe u happy too !

Chanesd said...

ช่วงนี้ออกแนววิถีชีวิตนะครับ อาจารย์

ความเป็นไปของธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์คู่ชีวิต

- - - - - - - - - - - - - - - - -

แม่ผมเป็นหมอสูติครับ เห็นความเลวร้ายของสังคมมามาก
และผมก็เศร้าใจ ที่ชาวบ้านทั่วไปที่การศึกษาไม่มาก และปัญญาไม่เจริญ (ขออนุญาติพูดความจริงที่ประสบ)
เหล่านี้สืบพันธุ์ และแพร่พันธุ์ได้เร็วมาก อายุ13-14-15 ก็มีลูกกันหมดแล้ว

ในขณะที่ปัญญาชนเมืองไทย มีลูกได้ 1 คน พวกนี้ มีลูกของลูก(หลาน)ได้แล้ว สืบสายพันธุ์ง่าวต่อไปไม่รู้จบสิ้น อันเป็นธรรมดาของสังคมไทย

สำหรับผม รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ค่อยสนับสนุนให้ประชาชนฉลาด และมีความรู้ มีปัญญากันสักเท่าไร ทั้งระบบการศึกษาที่ไม่ทำให้คนฉลาดขึ้น และกระจายน้อย
ไม่ส่งเสริมการอ่าน แต่ส่งเสริมเพื่อทุน เช่น ทุนโฆษณา ดูทีวีกันเข้าไปชาวบ้าน รู้กันหมดว่าชาคริตเลิกกับจักจั่นเพราะอะไร แต่ถามว่ารู้ไหมพลเอกสุรยุทธ์เป็นใคร รมต.มีใครบ้าง ก็ไม่ทราบกันแล้วครับ ทุนมือถือใช้กันให้หมดประเทศเป็นล้านๆคน แต่เข้าถึงแหล่งข่าวสารข้อมูลจริงๆ ได้กี่คน

ล่าสุดผมไปงานวันนักเขียนกับคุณแม่ ก็เห็นวงการกวี ที่นักเขียน นักประพันธ์รุ่นเก่าๆ ปัญญาชนมารวมตัวกัน คนเหล่านี้นับวันแม้จะยังพอมีเหลือ แต่ก็จางหาย รวมถึงแปรเปลี่ยนไปในรูปแบบอื่นๆทุกที เป็นพัฒนาการของวงการนี้ ที่หนังสือดารา แนว "แจ่มใส"ขายดีที่สุด

วงการสื่อที่คู่กับวงการนักเขียนก็ไปร่วมงาน เป็นสิ่งสำคัญมากในสังคมปัจจุบัน ที่สื่อต้องทำหน้าที่สื่อที่ดี และก็ทำได้ดีบ้างเล็กน้อย

แอบกระซิบว่า ตอนสมัยไล่คุณทักษิณ คุณสุชาติ สวัสดิ์ศรีล่ารายชื่อคนไล่แม้ว นักเขียนฝั่งทุนผู้อาวุโสของวงการ ลงรายชื่อไล่แล้วยังต้องรีบกลับมาลบชื่อตนเอง เพราะกลัวนายด่า (ทุนซีP)

- - - - - - - - - - - - - - - - -

มหาวิทยาลัยเราก็มีจัดรับฟังความเห็น รธน. แต่ผมไม่ว่าง และเห็นประโยชน์เป็นชิ้นเป็นอันได้น้อยในสังคมเช่นนี้ ตราบใดที่รัฐบาลไม่จริงใจในการรับฟังประชาชน ไม่เห็นพลังประชาชน เห็นแต่ระบอบศักดินา พวกพ้อง และทุน

คงเป็นธรรมดาของการเมืองทั่วโลก

เพื่อนๆผมที่สนใจ ติดตามการเมือง ผลประโยชน์ของประชาชน ก็พลอยเบื่อ เลิกกันไปหมด
และสิ่งที่ผมทำตลอดมาเกี่ยวกับการเมือง กลายว่าผมเป็นไอ้บ้าในสายตานักศึกษาร้อยละ 99


โดยสรุป ผมคิดว่าอุดมการณ์ประชาธิปไตย ยังลำบาก ถ้าทุน+ศักดินา ร่วมขย่มประเทศกันอยู่ทุกวันนี้
หากผมอยากคิดพัฒนาประเทศชาติจริงๆ ก็หาเงินทุนสักพันล้าน มาเล่นการเมือง และถ้าระบบยังเป็นอย่างนี้ ก็ยากที่เราจะทำตัวเป็นคนดีหาพวกคนดีมาร่วมท้าลมฝนพายุบนเวทีการเมืองระดับชาติได้
สู้เอาเงินไปร่วมหุ้นสโมสรฟุตบอล จะสนุกกว่าครับ ^_^



"กราบขอโทษที่มาบ่นไว้ ณ ที่นี้ครับ."

- - - - - - - - - - - - - - -

ร่วมสุขสันต์วันเกิดย้อนหลัง ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยและคุณงามความดีที่ได้ทำไว้ คุ้มครองให้เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พลัง ทั้งครอบครัวนะครับ

crazycloud said...

ขอบคุณครับ