Wednesday, July 25, 2007

ใครไม่รู้จักไบเบิ้ล


ใครไม่รู้จักไบเบิ้ล

ใครไม่รู้จักไบเบิ้ลบ้าง คงหายาก เด็กเล็กๆก็ยังรู้จักไบเบิ้ลกันเลย

หลักการแห่งไบเบิ้ล ถือเป็น หลักการสูงสุดที่ผู้คนในสมัยกลางยึดถือ
ผู้ใดกล่าวคำที่ขัดกับไบเบิ้ล ผู้นั้น อาจได้รับผลร้าย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

สมัยก่อน ผู้คนมีความเชื่อผิดๆว่าโลกแบบน หากเดินทางโดยเรือไปเรื่อยๆ
อาจไปสุดที่ขอบโลก จนกระทั่งตกลงไปจากโลกได้

ในไบเบิ้ลบอกว่า โลกไม่แบน แต่โลกเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ
โดยมีดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก ทั้งนี้เนื่องมาจากการสังเกต พระอาทิตย์ขึ้นหรือตก
จนสันนิษฐานแล้วนำไปบันทึกในไบเบิ้ลว่าดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก
แล้วมีการเชื่อถือสืบๆกันมา

จนการอุบัติของ กาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์เอกที่ทำการทดลองด้วยเครื่องมือทางดาราศาสตร์
จนได้ข้อสรุปว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ โลกจึงมิใช่ศูนย์กลางของระบบสุริยะ
ข้อสรุปที่ว่า จึงขัดแย้งกับข้อความในพระคัมภีร์โดยสิ้นเชิง

ต่อมาสันตะปาปาจึงเรียกกาลิเลโอไปสอบสวน ข้อหากล่าวคำที่ขัดแย้งกับพระคัมภีร์
และขู่ให้กาลิเลโอแก้ข้อความในบันทึกของตนและคำประกาศความจริงดังกล่าว
ทั้งนี้หากประชาชนไม่เชื่อถือในพระคัมภีร์แล้ว
ศาสนจักรก็อาจถึงกาลพินาศจากความเสื่อมศรัทธาในไบเบิ้ลเป็นแน่แท้

กาลิเลโอ ยอมแก้ข้อความของตนโดยกล่าวว่า

"เนื่องจากไบเบิ้ล เนื่องจากศาสนจักร และเนื่องจากสันตะปาปา
ข้าขอยืนยันว่าโลกเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ (ก็ได้)"

กาลิเลโอจึงรอดตายไปหวุดหวิด

ต่อมาเมื่อ กาลิเลโอเสียชีวิต
มีการค้นพบบันทึกลับของเขา
ซึ่งมีข้อความต่อท้ายข้อความข้างต้นว่า

"แม้ว่าตามบันทึกในไบเบิ้ล จะกล่าวว่า โลกเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ
แต่ที่แน่ๆ โลก และดวงอาทิตย์ ไม่รู้จักไบเบิ้ล โลกและดวงอาทิตย์อ่านไบเบิ้ลไม่ออก
ดังนั้นข้าจึงหมดปัญญาที่จะทำให้โลกและดวงอาทิตย์เชื่อตามไบเบิ้ล"

..................

ผมนั่งรถแท็กซี่ไปประชุมที่รัฐสภาเรื่อง จัดทำฐานข้อมูลสืบค้นรัฐธรรมนูญ
คนขับรถบ่นอุบ "ทำไม่ฝนแม่งต้องมาตกที่กรุงเทพฯด้วยฟะ"

ผมนึกถึง กาลิเลโอ ได้ จึงตอบกลับไปว่า

"ฝนมันไม่รู้จักกรุงเทพฯหรอกพี่ มันก็ตกของมันไปเรื่อย"
ฮา ฮา

3 comments:

Unknown said...

มีอยู่คนนึงอยู่เมืองไทย น้ำก็ท่วม

ไปอยู่อังกฤษน้ำก็ท่วมครับ

Chanesd said...

ม็อบเรียกฝน ดันหาว่าทำฝนเทียมไล่เขาอีกแน่ะ! หุหุ

Unknown said...

เขียนได้ดี มีอารมณ์ขำ

แวะมาเยี่ยมอาจารย์

นับถือ นับถือ

Be Still...