Sunday, December 23, 2007

23 ธค.อำลาปีศาจ




และแล้วก็ได้เวลาอำลาอย่างแท้จริง
เวลาที่ต้องกล่าวคำอำลาต่อคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
อำลาเพื่อเดินหน้าสู่ระบอบบการปกครองแบบเลือกตั้ง

ระบอบการเลือกตั้ง พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ ของชนชาวไทย

วันนี้ ผมไม่ทำอะไร
นอกจากนอน
ไม่ไปเลือกตั้ง
ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น
งานใหญ่ที่สุดของวันนี้ คือ นั่งเขียนบล็อกตอนนี้

สำหรับการเมือง ยุ่งขิง
เมื่อหมดหน้าที่ ก็ต้องละวาง
บ้านเมืองเรามันได้เท่านี้

ขอให้โชคดี
สำหรับเหล่าทหารหนุ่มผลัดใหม่
ไม่ว่าจะมีอาชีพใดก็ตาม
หากท่านคิดจะรบเพื่อชาติต่อไปภายหน้า
ขอให้ท่านโชคดีในสงคราม


.......

ทหารแก่ ไม่มีตาย

Monday, December 17, 2007

ที่ที่เราจะหย่อนเท้าลงหยัดยืน



มันเหมือนกับว่านานมาแล้ว
ข้าพเจ้าจำได้ดี ถึงวันที่โลกหมุนคว้าง
เมื่อแม่ของข้าพเจ้า ได้ส่งข้าพเจ้าออกมาสู่โลก
ข้าพเจ้าร้องไห้ ในวัยนั้น ข้าพเจ้าทำได้ดีที่สุดแค่นั้น
ดีที่สุด คือการหลบเร้น เรือนกาย เพื่อซ่อนน้ำที่ไหลจากตาดวงน้อย

มันเหมือนกับว่า ท่านค่อยๆหยั่งเท้าลงบนน้ำลึกริมตลิ่ง โดยที่ท่านไม่รู้ว่ามันลึกประมาณใด
ความรู้สึก ที่ ข้าพเจ้าไม่มีแม้โอกาสจะหยั้งทราบล่วงหน้าได้ ถึงความลึกแห่งมัน
พอรู้ตัวอีกทีข้าพเจ้าก็ตกลงไปสู่ห้วงของชีวิต ที่สุดยากจะหาที่เท้าหยัดเพื่อยืนได้อย่างมั่นคงและเป็นสุข

แน่นอนที่สุดทั้งหมดทั้งมวลย่อมหล่อหลวมเป็นข้าพเจ้า อย่างที่เป็น
อย่างที่เป็น แท้จริง มันคือตัวข้าพเจ้าจริงหรือ
หรือมันเป็นเพียงประสบการณ์ที่เยียดยัดอยู่ในจิตใจเท่านั้นกระมัง

ในบรรดาประสบการณ์ของ คน แน่นอนที่สุด
ความสุข เป็นสิ่งที่ คน ดิ้นรนค้นคว้า
ความสุขเป็นที่เหยียบยืน ที่เหยียบยืนชั่วคราวให้กับชีวิตในแต่ละขณะ
แค่แต่ละขณะ ข้าพเจ้า เห็นเช่นนั้น

ใครหลายคน อาจกำลังโกยกอบแกมสำลัก
ใครหลายคนอาจกำลังเกยก่าย จุมพิต และดูดดื่มกับรสแห่งมัน
และหากไปไกลกว่านั้น ใครหลายคนอาจเที่ยวป่าวประกาศ ว่าการให้คือความสุขต่อทั้งตนเองและผู้อื่น
แต่สำหรับข้าพเจ้า มันเป็นเพียงอาการดิ้นรน เพื่อหาที่เหยียบยืนในโลกอันหมุนคว้างกลางจักรวาลแห่งจิตใจอันร้อนทุรณ

สำหรับข้าพเจ้า เสรีภาพ เสรีภาพ และเสรีภาพ
เสรีภาพ จากความเป็นอันสิ่งอื่นยัดเยียดให้ข้าพเจ้า
คือเป้าหมาย
เสรีภาพ เสรีภาพ เสรีภาพ จากการครอบงำทั้งหมด ทั้งมวล
คือที่เหยียบยืน

ในบางที ท่านอาจจะต้องพลัดตกลงสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของชีวิตเสียก่อน
จึงจะหยั่งทราบทิศทางของท้องฟ้า
เพื่อทะลึ่งตนเองขึ้นสูดอากาศ และความสดใสของชีวิต

ณ ที่นั้น ท่านจะพบที่หยัดยืนของชีวิต อันเปลือยเปล่า
และกระทั่งวีรกรรม ของ บรรดานักบุญ ก็เป็นเพียงเรื่องตลกขบขัน
เอาไว้เล่าเป็นนิทานปลอบใจ สำหรับผู้ที่ชอบนอนหลับแล้วฝันร้ายในชีวิตอยู่เสมอๆ

เพราะชีวิต
ชีวิตที่เชื่อมร้อยกับมหาจักรวาลอันไร้ที่หยัดยืน คือ ความสุข สันติ
ก็ด้วยเหตุที่มันยืนหยัดอยู่นับ อนันตกาล มิใช่หรือ

Thursday, December 06, 2007

เรื่อยๆ หมายเลข ๑


คว้างเคว้งเครงคลอนตะลอนฟ้า
เรื่อยลมแรงราราร่าเริงลิ่ว
ฟ่อนฟางฟอนไฟใบไม้โปรยปลิว
สะบัดสะบิ้งฉิวฉุยฉายปรายปรีดิ์

ดอกแม่ดอกไม้ไกวกลีบไหวลู่
เงาแสงสู่อยู่ม่านเมฆเสกแสงสี
ส่องมาไล้โลมใบเบาเคลียเคล้าคลี
ก่อนเคลื่อนคลี่คลายฟ่อนฟ้ามาเรียงๆ

ฟ่อนฟ้าฟ่อนเมฆปุยราวขาวเขื่อง
มาเล่าเรื่องรุ่มรวยแต่ไร้เสียง
มาเรียงร้อยสัจจะไร้สำเนียง
มาเดินเล่นราวระเบียงบันไดฟ้า

...........

เขียนตอนรู้สึกเรื่อยๆ
.........