Monday, December 17, 2007

ที่ที่เราจะหย่อนเท้าลงหยัดยืน



มันเหมือนกับว่านานมาแล้ว
ข้าพเจ้าจำได้ดี ถึงวันที่โลกหมุนคว้าง
เมื่อแม่ของข้าพเจ้า ได้ส่งข้าพเจ้าออกมาสู่โลก
ข้าพเจ้าร้องไห้ ในวัยนั้น ข้าพเจ้าทำได้ดีที่สุดแค่นั้น
ดีที่สุด คือการหลบเร้น เรือนกาย เพื่อซ่อนน้ำที่ไหลจากตาดวงน้อย

มันเหมือนกับว่า ท่านค่อยๆหยั่งเท้าลงบนน้ำลึกริมตลิ่ง โดยที่ท่านไม่รู้ว่ามันลึกประมาณใด
ความรู้สึก ที่ ข้าพเจ้าไม่มีแม้โอกาสจะหยั้งทราบล่วงหน้าได้ ถึงความลึกแห่งมัน
พอรู้ตัวอีกทีข้าพเจ้าก็ตกลงไปสู่ห้วงของชีวิต ที่สุดยากจะหาที่เท้าหยัดเพื่อยืนได้อย่างมั่นคงและเป็นสุข

แน่นอนที่สุดทั้งหมดทั้งมวลย่อมหล่อหลวมเป็นข้าพเจ้า อย่างที่เป็น
อย่างที่เป็น แท้จริง มันคือตัวข้าพเจ้าจริงหรือ
หรือมันเป็นเพียงประสบการณ์ที่เยียดยัดอยู่ในจิตใจเท่านั้นกระมัง

ในบรรดาประสบการณ์ของ คน แน่นอนที่สุด
ความสุข เป็นสิ่งที่ คน ดิ้นรนค้นคว้า
ความสุขเป็นที่เหยียบยืน ที่เหยียบยืนชั่วคราวให้กับชีวิตในแต่ละขณะ
แค่แต่ละขณะ ข้าพเจ้า เห็นเช่นนั้น

ใครหลายคน อาจกำลังโกยกอบแกมสำลัก
ใครหลายคนอาจกำลังเกยก่าย จุมพิต และดูดดื่มกับรสแห่งมัน
และหากไปไกลกว่านั้น ใครหลายคนอาจเที่ยวป่าวประกาศ ว่าการให้คือความสุขต่อทั้งตนเองและผู้อื่น
แต่สำหรับข้าพเจ้า มันเป็นเพียงอาการดิ้นรน เพื่อหาที่เหยียบยืนในโลกอันหมุนคว้างกลางจักรวาลแห่งจิตใจอันร้อนทุรณ

สำหรับข้าพเจ้า เสรีภาพ เสรีภาพ และเสรีภาพ
เสรีภาพ จากความเป็นอันสิ่งอื่นยัดเยียดให้ข้าพเจ้า
คือเป้าหมาย
เสรีภาพ เสรีภาพ เสรีภาพ จากการครอบงำทั้งหมด ทั้งมวล
คือที่เหยียบยืน

ในบางที ท่านอาจจะต้องพลัดตกลงสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของชีวิตเสียก่อน
จึงจะหยั่งทราบทิศทางของท้องฟ้า
เพื่อทะลึ่งตนเองขึ้นสูดอากาศ และความสดใสของชีวิต

ณ ที่นั้น ท่านจะพบที่หยัดยืนของชีวิต อันเปลือยเปล่า
และกระทั่งวีรกรรม ของ บรรดานักบุญ ก็เป็นเพียงเรื่องตลกขบขัน
เอาไว้เล่าเป็นนิทานปลอบใจ สำหรับผู้ที่ชอบนอนหลับแล้วฝันร้ายในชีวิตอยู่เสมอๆ

เพราะชีวิต
ชีวิตที่เชื่อมร้อยกับมหาจักรวาลอันไร้ที่หยัดยืน คือ ความสุข สันติ
ก็ด้วยเหตุที่มันยืนหยัดอยู่นับ อนันตกาล มิใช่หรือ

5 comments:

Anonymous said...

ประทับใจบทความอันนี้จัง..
และพยายามจะเขียนอธิบายว่าเหตุใดจึงประทับใจ..แต่ก็เขียนไม่ถูก..ไม่รู้ว่าจะเรียบเรียงให้เป็นตัวอักษรรวมเป็นประโยคภาษายังไงดี

"ในบางที ท่านอาจจะต้องพลัดตกลงสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของชีวิตเสียก่อน
จึงจะหยั่งทราบทิศทางของท้องฟ้า
เพื่อทะลึ่งตนเองขึ้นสูดอากาศ และความสดใสของชีวิต"

...ประโยคเพียงสั้น ๆ แต่สร้างกำลังใจให้ผู้อ่านคนหนึ่งได้มากมาย ..ขอบคุณค่ะ..(●∩_∩●)

crazycloud said...

ยินดีรับใช้

Gelgloog said...

จะบอกว่า ช่างสรรหารูปมาลงได้ แหล่มจิงๆ

Anonymous said...

ส่วนที่ลึกที่สุดของชีวิต...
กับส่วนที่ลึกที่สุดในจิตใจ...

ตัวตน ที่มิได้เกิดจากการหล่อหลอมของสรรพสิ่งภายนอก...
ต้องหยั่งสักเท่าใดจึงจักรู้ ตัวตน ในจิต..

sweetnefertari said...

ช่วงนี้ไม่รุเปงไร ทีนเหม็นมาก
สงสัยต้องหาดอกไม้มาปักทีนดูบ้าง อิอิ