Saturday, April 18, 2009

ความฝันของบักคำม่วน


เพลิงผลาญรถเมล์เล่นราวเด็กซนประโดกจุดประทัดเล่นกลางกรุงเทพทวาราวดี
ไอ้เด็กซนคะนองคึกสาดไฟฟอนสุมขอนกลางใจพระนครและกลางใจผู้คนผู้รักสันติธรรม

ความเติบโตใต้สันดาน จากเด็กวิ่งซนขึ้นต้นไม้ ตะขบ มะยม มะไฟ
จบประถม มัธยม สันดานดิบก็กระโดดกระเดี้ยเรี่ยราด
เผลออีกทีพอนมแตกพาน ก็พบตัวเองกับเหงื่อไคลย้อย
กลางสนามโรงเรียนนายร้อย ตำรวจสุนัข วิ่งแข่งกับสุนัขตำรวจ

ยศถาบรรดาศักดิ์ อำนาจเงินตรา มิสำคัญอันใด
แต่สันดงสันดานกลับบานตะเกียงซุ่มเงียบในดวงจิต
ดาวร้อยประบ่าสวยยิ่งกว่าบ่าน้องนางระเรี่ยด้วยสยายผม

ดาวน้อย ร้อยตำรวจตรี สุรา นารี
รถไฟ เรือ เมล์ ลิเก ตำรวจ
เสือ สิงห์ กระทิง แรด เหี้ย ตำรวจ นักการเมือง
ชาติพันธ์วรรณามิใช่แบ่งแยกแค่ สัตว์ พืช หรือ ผิวพรรณ


นกไม่สามารถบินแบบระยำได้
สิงโตกระโดดฟาดกรงเล็บลงหลังกวาง อิ่มแล้วก็นอนใต้ต้นไม้
จระเข้ ชาละวัน พิจิตร งับเงิบๆ พออิ่มก็นอนอ้าปากเบิกบาน

คนกับสันดาน ขยายกรอบขอบเขต กู กันยกใหญ่
อวิชชา เป็นมูล พระพุทธองค์กล่าวแบบสุภาพ โฉน ลำไพ แปลเป็นไทยว่า โง่

ฮิตเล่อ กิสข่าน นโปเลียน อีดี้ มากอส ปิโนเช่
คนเหล่านี้ เคยเท่ห์เพราะมีพวกสุนัขคอยยกยอ
สันดาน สันดอน อ้ายสี อีเพ็ญ สองผัวเมียชาวไร่
ช่วยขุดเท่าไร คงไม่ขึ้น

อีลำไย ยังนั่งฟังกอฟ ไมค์ อยู่ใต้ต้นมะขวิด
สาวนาสั่งแฟนตกกระป๋องเมื่อ นักร้องไทยกระแดะเป็นเจ Pop
เสียงเครื่องขยายเสียงสิบแปดหลอด ของ ส.ส.
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชิญชวน ให้ไปร่วมการปฏิวัติเปรต

สันดานการเมือง ยังถ่ายทอด แพร่พันธ์
แม้บักสี อีจำปา จะนอนก่ายกันข้างกองฟาง
แต่ความสุขง่ายๆของไอ้อี
บรรดา พณ หัวเจ้าท่าน ไม่พอเพียง


บักสี อีจำปา แจ้ง ใบตอง โฉนลำไพ
ตายห่าไปนานแล้ว

ไอ้จุกร้องงอแง เมื่อพลักตกต้นตะขบ
ไอ้แดงยืนหัวเราะ
ตาสี นั่งตกปลา
มวนใบยาสูบ
..............

พระนคร จะเป็นอย่างไร
ก็ช่างหัวมัน

กรูไม่อาจขุดสันดอนใครได้

บักม่วน อุทาน บนกกเสื้อใต้ต้นก้ามปู
ลมเย็นสบาย

.........

ไม่รู้ใครโง่ ไม่รู้ใครใหญ่ กว่าใคร
นั่นนะสิ

No comments: