Friday, August 28, 2009

อำสะเตอดำ



ไป อำสะเตอดำ มา สวยดี เอารูปมาฝาก










Thursday, August 20, 2009

Praha




ไป ปราก Praha Prag Praga Praque สวยดี เมืองนี้อาร์ทมาก
ราคาไม่แพง สวย ชอบๆ สนุกๆ











Sunday, August 16, 2009

ยิบรานอีกสักที



ผมมีความเชื่ออย่างแน่นแฟ้นว่าหน้าที่ในการเกิดมาเป็นมนุษย์ คือ การฝึกฝนตนเองเพื่อมีหัวใจที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
นั่นหมายความว่า หัวใจจะมีความสุขมากขึ้น เงื่อนไขน้อยลง รักได้มากขึ้น เจ็บปวดน้อยลง
ในการฝึกฝนตนเอง ประสบการณ์เป็นสิ่งที่จำเป็น
และความรักก็เป็นประสบการณ์ที่ดีในการฝึกฝน
ยิ่งคนเราแบกรับ ความทุกข์ ความเจ็บปวด ได้มาก
กระทั่งถึง การโยนแอกแห่งความเจ็บปวด ออกจากใจได้
มนุษย์ก็จะกลายเป็นสิ่งที่มีวิวัฒนาการสูงขึ้น

คาลิล ยิบราน เป็น กวี นิรันดรกาลลำดับสาม ลองจาก เชคสเปียร์ กับ เล่าจื้อ
เขาเป็น กวี ต่างชาติคนแรกที่กระแทกใจผม
และยามใดที่ผมต้องเผชิญความทุกข์ในลานบดแห่งชีวิต
บทกวีของยิบรานกลายเป็นบทสวดมนต์ของผม
เพื่อที่จะเดินต่อไป ในเส้นทางแห่งวิวัฒนาการแห่งนี้

ผมนำ บทกวีนี้ มาใส่ไว้ใน บล็อกอีกสักครั้ง
เพื่อที่จะตักเตือน เติบโต และเป็นกำลังให้ชีวิตต่อไป


...................


เมื่อความรักร้องเรียกเธอ จงตามมันไป
แม้ว่าทางของมันนั้นจะขรุขระและชันเพียงไร
และเมื่อปีกของมันโอบรอบกายเธอ จงยอมทน
แม้ว่าหนามแหลมอันซ่อนอยู่ในปีกนั้นจะเสียดแทงเธอ
และเมื่อมันพูดกับเธอ จงเชื่อตาม
แม้ว่าเสียงของมันจะทำลายความฝันของเธอ
ดังลมเหนือพัดกระหน่ำสวนดอกไม้ให้แหลกรานไปฉะนั้น

เพราะแม้ขณะที่ความรัก สวมมงกุฎให้เธอ มันก็จะตรึงกางเขนเธอ
และขณะที่มันให้ความเติบโตแก่เธอนั้น มันก็จะตัดรอนเธอด้วย
แม้ขณะเมื่อมันไต่ขึ้นไปสู่ยอดสูง
และลูบไล้กิ่งก้านอันแกว่งไกวในแสงอรุณ
แต่มันก็จะหยั่งลงสู่รากลึก
และเขย่าถอนตรงที่ยึดมั่นอยู่กับดินด้วย

ความรัก ... จะรวบรวมเธอเข้าดังฝักข้าวโพด
มันจะแกะเธอออกจนเปลือยเปล่า
แล้วมันจะร่อนเพื่อให้เธอหลุดจากเปลือก
มันจะบดเธอจนเป็นผงขาว
แล้วก็จะขยำจนเธออ่อนเปียก
แล้วมันก็จะนำเธอเข้าสู่ไฟอันศักดิ์สิทธิ์ของมัน
เพื่อว่าเธอจะได้กลายเป็นอาหารทิพย์ของพระเป็นเจ้า

ความรัก ... จะกระทำสิ่งทั้งหมดนี้แก่เธอ
เพื่อว่าเธอจะได้หยั่งรู้ความลับ ของดวงใจเธอเอง
และด้วยความรู้นั้นเธอก็จะได้เป็นส่วนหนึ่ง ของดวงใจแห่งชีวิตอมตะ
แต่ถ้าหากด้วยความกลัว เธอมุ่งแต่แสวงหาความสงบสุข
และความสำราญจากความรัก
ก็จะเป็นการดีกว่าที่เธอควรจะปกคลุมความเปลือยเปล่าของตน
และหลีกหนีออกไปเสียจากลานบด
ไปสู่โลกอันไร้ฤดูกาล ...
ที่ซึ่งเธอจะหัวเราะก็ไม่เต็มที่และจะร้องไห้ก็ไม่เต็มที่

ความรัก ... ไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง
และก็ไม่รับเอาสิ่งใด นอกจากตนเอง
ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมให้ถูกครอบครอง
เพราะความรักนั้น พอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก


เมื่อเธอรัก อย่าได้พูดว่า ...
พระผู้เป็นเจ้าอยู่ในดวงใจเรา
แต่ควรพูดว่าเราอยู่ในดวงใจพระผู้เป็นเจ้า
และอย่าได้คิดว่า ... เธอสามารถนำแนวทางของความรักได้
เพราะถ้าความรักพบว่า เธอมีคุณค่าพอแล้ว ก็จะเป็นผู้นำแนวทางของเธอเอง
ความรักไม่มีปรารถนาสิ่งอื่นใด นอกจากที่จะทำตนเองให้สมบูรณ์
แต่ถ้าหากเธอรัก และจำต้องมีความปรารถนา
... ก็ขอให้ความปรารถนาของเธอจงเป็นดังนี้



เพื่อจะละลายและไหลดังธารน้ำ ซึ่งส่งเสียงเพลงกล่อมราตรี
เพื่อจะเรียนรู้ความปวดร้าว อันเกิดแต่ความอ่อนโยน ละมุนละไมเกินไป
เพื่อจะต้องบาดเจ็บ ด้วยความเข้าใจ ในความรักของตนเอง
และเพื่อจะยอมให้เลือดหลั่งไหล ด้วยความเต็มใจและปราโมทย์
เพื่อจะตื่นขึ้น ณ รุ่งอรุณด้วยดวงใจอันปิติ และขอบคุณความรักอีกวันหนึ่ง
เพื่อจะหยุดพัก ณ ยามเที่ยง และเพ่งพินิจความสุข ซาบซึ้งของความรัก
เพื่อจะกลับบ้าน ณ ยามพลบค่ำ ด้วยความรู้สึกสำนึกคุณ

และเพื่อจะหลับไปพร้อมกับคำสวดมนต์ภาวนา สำหรับคนรักในดวงใจ
และเพลงสรรเสริญบนริมฝีปากของเธอ ...

Thursday, August 13, 2009

หัวใจดวงน้อย กับ ดวงใหญ่ที่สุดในโลก


ผมไม่รู้ว่าผมจำความได้ตอนกี่ขวบ
พอเริ่มเห็นแสง เห็นหน้าผู้คน ฟังรู้เรื่อง ด่าเป็น
ก็รู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากผม
ผู้หญิงที่มีหัวใจดวงใหญ่ที่สุดในโลก
แม่ผมเอง

แม่ ไม่ว่าของผม หรือของคุณ เป็นคนที่สวยที่สุดเสมอ
ทำอาหารอร่อยที่สุด ซักผ้าสะอาดที่สุด กอดเรา หอมเรา
รักเรามากที่สุด วัยเด็กสำหรับคนมีแม่ จึงเป็นความสมบูรณ์
หากใครไม่มีแม่ ให้แม่ผมไปกอดคุณก็ได้
แม่กอดดีนะ กอดที่ไรผมมีความสุขทุกที
แต่ต้องคืนนะ ของรักของหวง

บ้านผมเป็นร้านขายของชำตามต่างจังหวัด
พ่อผมมีอาชีพ ทำนาและเป็นกำนัน
แม่ผมขายของ
ผมจำได้เราเคยมีอาชีพขายผ้าตามตลาดนัด
สมัยก่อนตลาดนัด มันเป็นตลาด นัด จริงๆ
คือในหนึ่งเดือนจะมี ๓๐ นัด สองรอบ รอบละ ๑๕ นัด
เริ่มงงละซิ ตลาดนัด คือ นัดกันจัดตามวัด ๑๕ วัด วัดละสองรอบต่อเดือน
โดยการนัดจะนับตามระบบดวงจันทร์
ขึ้น ๑ ค่ำ วัดนี้ ขึ้น ๒ ค่ำ วัดโน้น เป็นต้น

แม่ผมเป็นคนสวยนะ ส่วนพ่อผมเป็นชาวนาตัวดำ หน้าแก่
เวลาไปขายของกันที่ตลาดนัด ชอบมีคนมาจีบแม่
พอจีบแม่เสร็จ ก็เดินเข้าไปไหว้พ่อผม เพราะนึกว่า พ่อผมเป็น พ่อของแม่
เมื่อถึงเวลาเฉลยทีไร ไอ้หนุ่มโชคร้าย ก็จะเดินหน้าเจื้อนหนีไป
เกือบเจอบาทา

ผมชอบไปที่ตลาดนัด วิ่งไปร้านโน้น ร้านนี้
กินขนม ไอติม ก๋วยเตี๋ยว ลอดช่อง สารพัด
พอกลางวันก็นอนหลับไป รู้ตัวอีกที
ก็มานอนอยู่บนรถ ในระหว่างทางกลับบ้านซะแล้ว

นึกแล้วก็มีความสุข
ผมก็คาดเดาว่าตอนนั้น
พวกคุณก็มีความสุขเช่นกัน
เพียงแต่เราเกิดกันในคนที่ คนละบริบท ก็เท่านั้น
ความสุข หน้าตา มันเหมือนกันหมดแหละครับ
มันไม่เลือกที่เกิด หรือคนที่มันจะเกิดด้วย

..................

ตอนผมหกขวบ
มันเป็นตอนกลางคืน
ผมนอนร้องไห้อยู่บนเตียง

ผมเปลี่ยนสถานภาพตัวเอง จากลูกของแม่
มาเป็นนักเรียนประจำซึ่งตั้งอยู่อีกจังหวัด
ตอนกลางวัน ไม่กล้าร้อง อายคน
พอดับไฟเข้านอน น้ำตาก็ไหลออกมา
หลังจากที่กลั้นไว้ทั้งวัน
นอนร้องไห้ ในความมืด
ตอนนั้น ผมคิดว่าช่างน่าอาย
แต่ใครจะไปรู้ ในค่ำคืนนั้น อาจมีผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกับผม
ลูกของแม่ทั้งหลายที่อาจนอนร้องไห้น้ำตาเปรอะหมอนเช่นเดียวกับผม

คุณเชื่อไหม นับแต่วันนั้น วันแรกในโรงเรียนประจำ
บ้าน ไม่ใช่ภูมิลำเนาของผมอีกต่อไป
หกปี ที่ได้อยู่กับแม่ และกว่า ๒๕ ปีแล้วที่ผมออกจากบ้านมา
อย่างที่ผมบอกคุณว่า เมฆบ้า พเนจร จริงๆ
จากบ้านเกิดของผม ไปอยู่อีกจังหวัด ๖ ปี
อยู่เมืองหลวงอีก ๑๗ ปี มาอยู่เมืองนอกก็เข้าปีที่สอง
แต่ผมก็ไม่เคยลืมบ้าน

บ้านที่พอผมไปถึงและลงจากรถเมื่อไร
จะมีผู้หญิงแสนสวยยืนยิ้มรอผมอยู่
ผู้หญิงที่เคยกอดผมมาตั้งแต่เด็ก

.................

มันเหมือนเม็ดน้ำ น้อยๆ ที่ได้ไหลคืนกลับทะเล
เป็นความไพศาล สงบ ลึกล้ำ เมื่อเรารู้ว่าเราเป็นใคร มาจากไหน
เมื่อเราไหลกลืนเป็นเนื้อเดียวกับความกว้างใหญ่ของความรัก

หัวใจดวงน้อย กับ ดวงใหญ่ที่สุดในโลก
คือ ผม กับ แม่ผม
และคุณ กับ แม่ของคุณ
ซึ่งเธอก็มีหัวใจดวงใหญ่ที่สุดสำหรับคุณเช่นกัน

..................

Sunday, August 09, 2009

เรื่องของหัวใจ ตอนที่ ๒


ผมเพิ่งกลับจากไอริชผับ ข้างๆโบสถ์ประจำเมืองมิวนิก ฟังเพลงร๊อคที่ไม่ได้ฟังมานาน
คนยุคผม ราวๆสามสิบต้นๆ ต้องนี่ครับ
Nirvana ของพี่ Kurt Kobain Gun and Rosess Metallica
Bryan Adam หรือ ถ้าออกบริทป๊อป ก็ต้อง Oasis Blur Greenday
อากาศมิวนิกตอนนี้กำลังดีครับ ร้อนนิดๆ กลางคืนเย็นๆ
พูดถึงเพลงร๊อค ทำให้ผมนึกถึง เรื่องของหัวใจ ตอนที่ ๒
.............


บนเวทีปราศรัย มองออกไป มีคนหลายพันอยู่ ผมถูกส่งขึ้นไปพูดคนแรก
เขาเรียกผมว่านักวิชาการ ในมือผมมีกระดาษสองสามแผ่น

เวลาที่อยู่บนนั้น ผมรู้สึกว่าหัวใจผมร้อนผ่าว มันเหมือนไฟ
ผมจำได้ว่า สมัยผมเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งดวงจันทร์
สิ่งที่ผมชอบที่สุด คือ การขึ้นไปร้องเพลงบนเวที
ผมจำได้ผมมีวงดนตรี ครั้งสุดท้ายเล่นในงานรับน้องคณะกฎหมาย
ผมว่าในโลกนี้ มีคนจำนวนน้อยที่หัวใจผ่านความรู้สึกแบบนี้

การร้องนำ มีคนเต้น เคลื่อนไหวไปตามจังหวะดนตรี

แต่การปราศรัย ผมจำได้ว่า ผู้คนที่อยู่ข้างล่าง ยืนนิ่ง
ปากของผมขยับไป ผมไม่ได้ยินเสียงตัวเอง
มันเหมือนหนังเงียบ มีคนมากมายยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้า
ฟังคนหูตึง คนหนึ่งพูด

ขณะที่ผมก้าวออกจากไมโครโฟน
ผมได้ยินเสียงปรบมือ และผู้คนตะโกนขับไล่
ใครคนใด คนหนึ่งที่ผมพูดถึง
หัวใจผมรู้สึกโล่งๆ

เสียงปรบมือ เสียงขับไล่ สีเหลือง แสงไฟ
โฆษก นักพูด การเมือง สงคราม ความคิด อารมณ์
ท้องฟ้า เมฆ วัด ต้นไม้ และสิ่งรายลอบ

ผมเดินออกจากเวทีแห่งนั้น มีผู้คนที่ผมไม่รู้จักเข้ามาทักทาย จับมือ
เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่มีคนมาขอลายเซ็น
ลายเซ็นที่ผมเซ็นในฐานะของผมเอง

ผมเดินหายกลับเข้าไปใน มหาวิทยาลัยแห่งดวงจันทร์

มันไม่เหมื่อนเดิน มันเหมือนลอยกลับเข้าไปมากกว่า ผมรู้สึกเช่นนั้น
ผมจำหนังเรื่อง Gladiator ได้ ผมรู้สึกราวกับเป็นนักสู้ที่ออกไปปล้ำกับสิงโต
และเพิ่งรอดชีวิตเดินกลับมา


ขณะที่ผมเดินมาถึง ตึกโดม

ผมพบชายคนหนึ่ง คนที่เมตตา และสร้างผมมาในทางวิชาความรู้
เป็นคนที่ให้โอกาสที่ดีกับผมเสมอ

ชายคนนั้น นั่งยิ้มอยู่อัฒจรรย์หินหน้าตึกโดม
ยิ้มให้ผม

ผมเข้าไปนั่งข้างๆ ชายคนนั้นตบไหล่ผม และบอกว่า ดีมาก

ผมรู้สึกมีความสุข

หัวใจผมยิ้ม

มันร้อน ปราดเปรียว ดังกระทิงหนุ่มผู้ไม่กลัวความตาย

มันพร้อมจะวิ่งต่อไป

เพราะที่ผ่านมา

เรื่องมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

.............


เพลงร๊อค นานๆฟัง มันก็ดีนะ

มันเป็นเพลงของคนหนุ่ม แต่ผมไม่ชอบร๊อคขนาด Heavymetal ประเภท Ironmeiden
Blacksabbaht Sepultular ประมาณ Metalica พอไหว

Dreamtheater วงนี้สุดยอด วงโรงลครแห่งความฝันเป็นสุดยอด Progessiv Rock
จำได้มือเบสวงนี้เป็นลูกครึ่ง เวียดนาม-เมกัน ชื่อ จอน เมี่ยง คนในรูป

.....................

ร๊อค

ฟังแล้ว จะได้ยินหัวใจเต้นแรงขึ้น เวลาเสียงกลองฟาดเข้ากลางใจ
ฟังแล้ว จะได้ยินหัวใจโยกตัว ตามเสียงเบส
ฟังแล้ว บางครั้งหัวใจอาจเจ็บแปรบด้วยเสียงกีต้าร์

แต่ก็ยังดี

ยังดี ที่มีหัวใจ