Wednesday, January 28, 2009

ซาเซน วาซัน


เซน ประตูหนึ่งสู่ ความจริง ความงาม ความสุข
บทเพลงแห่งซาเซนวาซัน คือ ดอกไม้ไม่จำนรร
งดงามกว่าบทกวีใดๆ แต่แอบแฝงไว้ซึ่งการเปิดเผยอันยิ่งใหญ่

ซาเซน คือ ทุกอิริยาบท ที่ขับกล่อมคลอด้วยท่วงทำนองแห่ง ซาเซนวาซัน

จงแลเห็นธรรมชาติซึ่งไร้ธรรมชาติ


ธรรมชาติล้วนดำรงอยู่รายรอบ
ธรรมชาติล้วนดำรงไม้เว้นกระทั่งในกายในใจของเรา
ธรรมชาติล้วนเกิดขึ้น เกาะกุม และแตกสลาย

ธรรมชาติในกายใจ เกิดขึ้น
ธรรมชาติในกายใจ ตั้งอยู่
ธรรมชาติในกายใจเปลี่ยนแปลง
ธรรมชาติในกายใจพริ้วไหว ริ้ว ริ้ว

และเมื่อแลเห็น ธรรม ดังกล่าวในกายใจ
ด้วยซาเซน

ธรรมชาติดังกล่าวย่อมดับสูญ
จึงกล่าว่าไร้ธรรมชาติ

จงแลเห็นธรรมชาติที่เราไม่เคยเห็น
กลับมาเห็น กายใจ ของตนเอง ตามที่เป็น
และเมื่อนั้น กาย ใจ จะแสดงการดับสูญให้ดู
ด้วยการดังกล่าว พุทธะ จะปรากฏกาย

และเมื่อ ฆ่าพระองค์ไป

จะเหลือ แต่จิตประภัสสร

โบยบิน อยู่เหนือ

ธรรมชาติ ซึ่งไร้ธรรมชาติ

.........

เมฆบ้า

Monday, January 12, 2009

ไร้รูป ไร้นาม

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เปลี่ยนแปลง เป็นทุกข์ ไม่เป็นตัวตน

โดยมากเราเห็น อนิจจัง ด้วยตาเปล่า โดยเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลง
ของสิ่งต่างๆวัตถุต่างๆระบบต่างๆ

เราเห็นทุกข์ โดยเฝ้าดูความหมดสภาพลงของสิ่งต่างๆวัตถุต่างๆระบบต่างๆ

เราเห็นอนัตตา โดยเฝ้าดูการก่อรูปของสิ่งต่างๆวัตถุต่างๆระบบต่างๆ
ณ ขณะใด ขณะหนึ่งว่าเป็นเพียงสภาวะในห้วงขณะที่ไปตั้งชื่อ
หรือจับยึดว่าเป็นนั่นเป็นนี่ไม่ได้
เพราะแท้จริงมันเป็นเพียงสภาวะนึงเท่านั้น

........

นั่นเป็นเพียงการเพ่งมองสิ่งที่อยู่ภายนอกประสาทสัมผัส
ยังไม่ทำให้เราเข้าถึงความจริง

...............

อนิจจัง ของกายนี้
ทุกข์ ของกายนี้
อนัตตา ของกายนี้
เมื่อนั้น กายจึงมิใช่เราเช่นกัน
ก็หมดทุกข์กับกาย

อนิจจัง ของความคิด
ทุกข์ จากความคิด
อนัตตาของความคิด
เมื่อนั้น ความคิดก็มิใชเรา
ก็หมดทุกข์กับความคิด

อนิจจัง ของจิต
ทุกขังของจิต
อนัตตาของจิต
เมื่อนั้น จิตก็มิช่เรา
ก็หมดทุกข์จากอำนาจของจิต


กาย จิต
เกิดขึ้น
ตั้งอยู่
ดับไป

สูดลมหายใจ
ตามรู้ดูไปเรื่อยๆ
แล้วสักวัน
จะไม่เหลืออะไร

นอกจากความจริง
งดงาม พิสทุธิ์
ไร้รูป ไร้นาม

เพราะกาย และจิต
มิใช่ของเรา

Saturday, January 10, 2009

รายงานตัว


ผมกลับเมืองไทยไปประมาณสามอาทิตย์
เพิ่งกลับมาบาเยินได้ไม่กี่วัน

อากาศร้อนนิดๆ หนาวหน่อยๆที่เมืองไทยเมื่อเปรียบกับ
ลบเกินห้าถึงสิบกว่าที่มิวนิคเล่นเอาต้องระวังกายให้ดี

เสียใจแทนนางโมหิณีที่ความตายมาพรากคุณไมเคิล ไรท์ไปซะแล้ว
บุหรี่เป็นเหตุกระมัง ตอนนี้ผมเลยต้องระวัง
เพราะไม่อยากทำเท่ห์ แล้วต้องมาตายก่อนได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียน

กลับไปไทยนอกจากได้เที่ยวพบหน้าคนรู้ใจ ครอบครัว
ผมยังมีโชคดีในโชคร้ายประการหนึ่ง คือ ผมกลายเป็นผู้ต้องหา

ถูกเครือข่ายเสือแดงที่รัก แจ้งความแทน นายทักษิณ ๗ คดีรวด
ที่ภาคอีสาน แจ้งความอย่างนี้กะลากผมไปกระทืบคาถิ่นชัดๆ กลัวนะเนี่ย

กลับบ้านไปแม่ถามว่าหมายอะไรลูก เลยตอบไปตามตรง
ว่า หมายเรียก ถ้าไม่ไปตามนัด จะถูกหมายจับ
ยังโชคดีที่ผมถูกฟ้องรวมเข่งไปกับคุณสนธิ และบรรดาศิลปินนักร้อง
เลยมีทนาย พี่สุวัตร อภัยภักดิ์ จัดการคดีให้

ผมว่า ผมค่อนข้างงงๆกับตัวเอง
บางที่บางเรื่อง ที่ชาวบ้านเขารู้สึกกัน ผมกลับไม่รู้สึก

แต่บางเรื่อง เคยรู้สึกอย่างไรก็ยังรู้สึกอย่างนั้น
โดยเฉพาะเรื่องความรัก ไม่ได้พัฒนาเอาซะเลย
ดีนะเนี่ย ที่ผ่อนพักนิสัยเจ้าชู้แล้ว เลิกเหล้า เผาบุหรี่
มิเช่นนั้น ชีวิตคงวุ่นวายเพราะทำตัวเองไม่หยุดหย่อน

อากาศหนาวเอาผ้าห่มพอทนไหว
แต่เรื่องใจต้องระวังมิพลั้งเผลอ
หากตกหลุมบ่วงกรรมที่บำเรอ
อาจพบเกลอคนเก่า ชื่อ เศร้าใจ

เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้
สาธุ ทะลุถึงพระ

.........

บุญรักษา ชีวาสดชื่น