Sunday, April 30, 2006

ความเคลื่อนไหวของผม


ความเคลื่อนไหวของผม
(ภาพถ่ายโดย อรรัตน์ คุ้มทรัพย์)

สวัสดีชาวบล็อกทุกท่าน โดยเฉพาะผู้วิวาทะกันแบบมันหยดติ้งๆ ทั้ง นิติรัฐ ราติโอ้ พี่กล้า น้องมิ้ม ปกป้อง และไร้นามทั้งหลาย


วันนี้ วันดี คลื่นลมการเมืองสงบ อารมณ์ดี มีความสุข เนื่องจากภารกิจเพื่อชาติเท่าที่ผมทำได้ ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว โดยสรุป ผมถือว่า แผนการณ์ที่ผมวางไว้ทั้งหมดเสร็จสิ้นลงเพียงครึ่งหนึ่ง ในขณะที่ภารกิจกู้ชาติ คืบหน้าไปเพียงไม่กี่คืบ ดังนั้นผมจึงได้เวลาชี้แจง ด้วยความสุภาพแก่มิตรรักทุกท่าน อีกครั้งหนึ่ง

.....................................

สำหรับผม ทำไมต้องกู้ชาติ ?

1.ระบอบทักษิณปล้นเงินที่ต้องโอนไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวม 1,600,000,000,000 บาท พวกท่านอยู่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบใด

2.ระบอบทักษิณขายรัฐวิสาหกิจ ขายสัมปทาน ซึ่งเป็นสมบัติชาติ และหลักประกันการดำรงชีวิตของคนในชาติทุกคน

3.ระบอบทักษิณฮุบกิจการที่เป็นสมบัติชาติเอาไปเป็นของตัว คือ ปตท. และต้องการฮุบ กฟผ.เนื่องจากมีระบบสายเคเบิ้ลที่มีประสิทธิภาพสูงในการส่งข้อมูลมากกว่าดาวเทียมหลายร้อยเท่า

ฝากท่านทั้งหลายศึกษาข้อมูลให้ครบ เพราะผมขี้เกียจเขียนขยายความ

...................................

เป้าหมายส่วนตัว ทำลายระบอบทักษิณ ด้วยการตัดที่ฐานราก ผมใช้ชื่อ กลยุทธว่า รื้อไม้ค้ำ

"ทักษิณ เปรียบดังต้นไม้ที่ตายแล้ว แต่ยืนอยู่ด้วยไม้ค้ำ คือ ลิ้วล้อ และสิบเก้าล้านเสียงที่ชอบอ้าง ดังนั้นการเอาชนะจึงไม่ใช่การตีที่นาย เพราะตีนายไม้ค้ำจะตั้งแข็งขึ้นมาบัง ทำให้ต้นไม้ไม่ล้ม"

ข้อจำกัด

1.ทักษิณ ยึดครองสื่อ ปิดหู ปิดตา ประชาชน ส่งคนไปนั่งดูรายการทีวีแทบทุกช่อง นอกจากนี้ตัวระบอบกินลึก


2.ผมส่วนตัวกำลังน้อย จึงต้องอาศัยกำลังผู้อื่น เพื่อนำ อาจารย์ไร้ทุนทางสังคมอย่างผมเหยียบไปบนสนามกำลัง

3.ผมไม่อาจเสนอยุทธศาสตร์ใหญ่ต่อพันธมิตรได้โดยตรง ในตอนหลังมีคนเดือนตุลาชักชวนจึงได้เข้าร่วมในทีมที่ปรึกษาของคนเดือนตุลากลุ่มหนึ่ง ซึ่งบางคนมีส่วนในการจัดตั้งพรรคไทยรักไทย จึงได้เริ่มเสนอกลยุทธ แต่ค่อนข้างจะช้าเกินไป

4.พันธมิตรดำเนินกลยุทธผิดพลาดในตอนต้น คือ ชุมนุมใหญ่เร็วเกินไป คือวันที่ 26 กุมภา ในขณะที่ภาพของพันธมิตรยังดูดี ควรบุกตะลุยต่างจังหวัดก่อน เพื่อสมานเจตนารมณ์ร่วม แต่รีบกลับเข้า กทม.เร็วเกินไป ตรงจุดนี้กลายเป็นข้อจำกัดจนถึงปัจจุบัน ที่พันธมิตรไม่อาจขยายแนวได้มาก

5.ในเรื่องนายกพระราชทาน ผมถือเป็นกลยุทธที่ต้องลงเรือลำเดียวกัน เพื่อนำมวลชนออกสู่ท้องถนน ซึ่งในพันธมิตรเองก็มีคนไม่เห็นด้วยเยอะ แต่ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานกองทัพออกศึกต้องพร้อมเข้าใจเจตนารมณ์สูงสุดร่วมกัน

6.ระบอบกฎหมาย เหมือนคนเป็นอัมพาต เพราะระบบทักษิณหลับตาตลอด บางเรื่องผมถือว่า หรี่ตาลง เพื่อชัยชนะ และนำ นิติรัฐกลับมาสถาปนาให้มั่นคง เปรียบเสืมอนปลวกกินเสาเรือน ต้องขุดขึ้นมาก่อน แล้วเอาเสามาตั้งใหม่ให้ได้หลังกำจัดปลวก
...................................

กิจกรรม

1.ออกเดินทางปราศรัย

ที่ อุบล ชัยนาท สิงห์บุรี ศรีษะเกษ โคราช ปทุมธานี ลานโพธิ์ สนามหลวง มิสกวัน มัฆวาฬ สีลม พารากอน หน้าพรรคไทยรักไทย หน้า กกต. โดนขวดเขวี่ยงก็มี โดนแท็กซี่บีบแตรใส่ นอนค้างในที่ต่างๆข้างม็อบ ตำรวจตาม มีโทรขู่ ทุกรูปแบบ

2.ฟ้องคดี เพิกถอนสัญญาสัมปทาน ตอนนี้อยู่ในระหว่างอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฟ้อง หากศาลรับเตรียมซื้อเสื้อเกราะกับโลงจำปา ฮา ฮา

3.เป็นทีมทำข้อมูลและทนายความศาลจำลอง ภายใต้บังคับการของ อ.ปริญญา และ อ.บรรเจิด

4.ร่วมทีมที่ปรึกษา กับคนเดือนตุลา

5.เป็นที่ปรึกษากฎหมายศูนย์จับตาการเลือกตั้ง นำเสนอประเด็นร่วมกับ อ.คมสันต์ โพธิ์คง เพื่อให้พันธมิตร และสภาทนายนำไปฟ้องคดี ล่าสุดศาลปกครองสั่งระงับการเลือกตั้ง 29 เมษายน

6.ออกรายการคม ชัด ลึก ร่วมกับคุณรสนา และคุณสมเกียรติ (ประธานสหภาพแรงงานท่าเรือฯ)
........................

ผลร้ายที่ตามมา

1.ถูกพ่อด่า แม่ด่า ตาด่า แต่พี่สาวเชียร์ น่ารัก

2.ถูกชาวบล็อกจำนวนมากด่า ถึงพ่อ แม่ ทั้งที่พ่อ แม่ก็ด่าผมเหมือนกัน ฮา ฮา ไล่มาตั้งแต่

3.ถูกตั้งข้อกล่าวหาโดยชุมชนบล็อกเก่อมากมายเพราะ ความบ้าระห่ำ เลือดเดือดของผมเอง ฮา ฮา พี่กล้า นิติรัฐ ราติโอ้ มิ้ม และพวกลิ้วล้อไร้นามทั้งหลาย

4.มีหนี้ติดตัว จากค่าเดินทางโดยแท็กซี่กู้ชาติ ค่าโรงแรม ศิริรวมแล้วตอนนี้ ประมาณ ครึ่งแสน

5.มีความสุขดี เพราะผมถือว่า ได้สู้เพื่อคนทุกคนรวมทั้งคุณที่ด่าผมเละ

......................

บุคคลที่ประทับใจ

1.กลุ่ม อดีต สว. มาลีรัตน์ แก้วกาบ การุณ ใสงาม สมบูรณ์ ทองบุราณ

2.กวีชาวบ้าน สมาน เกาะเหล็ก

3.อ.ภูวดล ม.เกษตร พี่ดี๋ ดอกมะดัน พี่วีระ สมความคิด พี่ดนัย อนันตโย

4.พี่สมศักดิ์ โกศัยสุข และ อ.สมเกียรติ พงศ์ไพบูล

5.พี่นิติรัฐ น้องจูน น้องเรย์ คนคุมเวทีและพนักงานของ astv

6.ฮิวโก้ นายเจ๋งจริง

7.พี่น้องในพันธมิตรที่มาชุมนุมทุกท่าน



.........................

ตกหลุมรัก

อ.บรรเจิด อ.เจริญ อ.คมสันต์ ในฐานะ นักปราชญ์คู่แผ่นดิน

.......................

เหตุการณ์ประทับใจ

1.แจกลายเซ็นให้แฟนๆ ยังกับ ฟิล์ม รัฐภูมิ

2.มีแม่ยก ป้าๆทั้งหลาย ทำกับข้าวมาให้กิน

3.ทำหน้าที่ส่งสารเรื่อง The King can do no wrong ให้กับพี่คำณูน จนคุณสนธิเอาไปพูดและถูกฟ้องคดีหมิ่นฯ

4.ไปปราศรัยหน้าไทยรักไทย ร่วมกับพี่น้องรามที่น่ารักและมันส์มาก ชอบๆ

5.ยืนด่า วาสนา บนเวทีหน้า กกต.สิบหน

6.ปราศรัยที่พารากอน วัยรุ่นตรึม หวานกรอบ

...................................

สำหรับชาวบล็อกทั้งขาประจำและขาจร ผมขอเรียนท่านทั้งหลาย ว่าผมเป็นคนสุภาพ สุภาพมากด้วย และให้เกียรติคนอย่างเสมอหน้า ไม่เคยกดหัวใคร และต่อสู้กับพวกกดหัวชาวบ้านเสมอๆ

ในช่วงแรกที่ผมเริ่มเคลื่อน และเขียนบล็อกไปด้วย มีคนเริ่มเล่นผมด้วยความรุนแรง ผมสุภาพ แต่ก็ยังไม่หยุด ผมก็แรงบ้าง (กรุณาไปสืบดูกันด้วย อย่ามองข้าม ไม่เช่นนั้นผมถือท่านที่ชอบด่าผมไม่มีความเป็นธรรม)


จากนั้น ผมไปปราศรัย ก็มีพวกออกมาตำหนิ โดยไม่เข้าใจว่าการพูดในม็อบเป็นอย่างไร ไม่เข้าใจในสไตล์ของผม จังหวะนั้น ผมเองก็ไม่ฟังใครเหมือนกัน เพราะผมมีเรื่องต้องคิด ต้องทำเยอะ และคนติผมก็หาได้เป็นผู้ที่คู่ควรจะติ เพราะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากติ ถามว่ามีคนติไหม มีแต่คนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้มีผลงานมาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งผมฟัง ฟังเพราะเขาเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เช่น อ.สมคิด อ.พันธ์ทิพย์ อ.ชลธิรา ในขณะที่ มีคนชม อย่าง อ.สุรพล อ.บรรเจิด อ.พินัย แล้วคนอย่าง นิติรัฐ ราติโอ้ ปกป้อง ทำอะไรมาบ้าง เป็นใคร จึงหาญกล้ามาวิจารณ์ผม ผมก็สวนไปตามสันดาน นักเลง

จากนั้น ผมก็ปิดบล็อกดีกว่าเพราะ ดูจะไม่ค่อยมีใครให้ความเป็นธรรมหรือดูต้นสายปลายเหตุสักเท่าไร ทั้งนี้ก็เนื่องจากอ่านบล็อกผมเป็นตอนๆไม่ได้อ่านติดต่อกัน จึงไม่เข้าใจในเหตุการณ์ นอกจากไม่มีความเป็นธรรมยังอ่อนหัดในเรื่องกลยุทธ โดยเฉพาะ นิติรัฐ และราติโอ้ ที่ถึงกลับลงทุนเขียนบล็อกตอบโต้สองตอน ผมบอกได้เลยว่าผมอ่านแบบผ่านๆ เพราะไร้สาระ และผมก็ตลกใจที่มีคนออกมามั่วกับสองคนนี้เต็มไปหมด น่าสังเวชจริงๆ นอกจากนี้เวลาผมเจอคนไร้สาระมากๆผมจะไม่อยากชี้แจง เพราะขี้เกียจพูด และก็โตๆกันแล้วไปคิดเอาเอง

....................................

ทั้งหลายทั้งปวง จึงฝากไปยังทุกท่าน ด้วยความนับถือว่า กรุณาดูสิ่งที่ผมเคลื่อนไหว กลับไปถามเหตุการณ์ในบล็อกที่สลายไปแล้ว จากผู้ที่พอรู้ ดูเหตุการณ์ให้ครบถ้วนก่อน หรือหัดรับฟังคำชี้แจงบ้าง แล้วค่อยตัดสินผม
.....................................

ส่วนกรณีบรรลุเซน อัตตา อนัตตา นั้น ยังยืนคำเดิม ว่าท่านทั้งหลายต้องเรียนรู้จากผม

บทเรียนแรก แลเห็นความรู้สึกต่างๆที่มีต่อผม ในใจของท่านซะก่อน

เพราะ เซน สรุปรวมลงแค่

"การแลเห็นธรรมชาติภายในตนเอง ซึ่งไร้ธรรมชาติ"

มิใช่จำมาพูด แต่ผมปฏิบัติวิปัสสนามาหลายปี

อย่าลืมว่าการมองว่าคนพูดหยาบ จะบรรลุธรรมได้อย่างไร เป็นความติดยึดอย่างนึง

การมองว่าผมหยาบคาย อุบาทว์ ก็เป็นการยึดติดอย่างหนึ่ง

...................................

ทุกอย่างที่ผมทำ หรือพูด เป็นเพียงความเคลื่อนไหว จากธรรมชาติของผมซึ่งไร้ธรรมชาติเท่านั้น แล้วท่านจะรู้ว่าท่านนั้นแหละที่คิดผิด
.............................

บุญรักษา ชีวาสดชื่น






6 comments:

crazycloud said...

ลืมพูด ขอบคุณ กำลังใจ จากอัศวินที่ผมนับถือ ปริเยศ ผมว่าคุณก็มันส์ดี ใช่เล่น

Gelgloog said...

น่านับถือๆ

มีหนี้ร่วมครึ่งแสน เห็นทีคงไร้เบี้ยไปเสพสุราเป็นแน่แท้5555

แวะมาแซวหนะ

ขำขำ ขำขำ

crazycloud said...

สุรา นารี ดุจสายธาร หาแน่นอนมิได้

เงินทอง เข้ามาออกไป เอาแน่นอนมิได้

ขำ ขำ ฮา ฮา

crazycloud said...

เรื่องส่วนตัว อยากรู้จริงว่า ไอ้บ่างตัวไหน คาบข่าวไปให้อาจารย์วรเจตน์ ผมไม่ได้กลัวข่าวจะรู้ถึงอาจารย์นะ แต่อยากรู้ไอ้หมาในบล็อกตัวไหนมันทำตัวเป็นบ่างขยะ

ไอ้พวกหัวโจก นิติใต้กระไดแก็งกระจอก เปรี้ยวทั้งหลาย ผมขอเตือนว่า ถึงเวลาเช็คบิล โดยเฉพาะ ไอ้อิท 42 ลิ้วล้อ นิติรัฐ และราติโอ้ ระวังตัวให้ดี

ที่ผ่านมา

พวกคุณ

1.ไม่มีความเป็นธรรม

2.ทำการบ้านน้อย ชักว่าวเยอะ

3.พวกมากลากมา

4.เอาไอ้เด็กเมื่อวานซืน ส้นตีน มาลบหลู่ผม

ถึงตาผมเล่นเกมส์บ้างแล้ว สนุก สนุก

sweetnefertari said...

สนุกจริงๆรึ...

Anonymous said...

เอ่อ...พี่ครับ คนถ่ายรูปใช่แอนรึเปล่าครับ ถ้าใช่มีอีเมลล์เค้ามั้ยครับ ผมไม่ได้ติดต่อกะเค้ามาตั้งนานละ อยากได้น่ะครับ